TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “How I Got My Trainer to be My Boyfriend” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร
เรื่องย่อ How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร ชื่อเรื่อง How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกรประเภท แอคชัน / ผจญภัย / แฟนตาซีนำแสดงโดย เมสัน เธมส์, นิโค พาร์คเกอร์, เจอราร์ด บัตเลอร์, นิค ฟรอสต์กำกับโดย ดีน เดอบลัวส์กำหนดฉาย 11 มิถุนายน 2025ความยาว 125 นาที อ่านรีวิวหนังได้ที่นี่
เรื่องย่อหนัง • 7 มิ.ย. 68
อ่าน
รีวิว🎬ซีรีส์ Be My Boyfriend(2021)
สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกแล้ว สำหรับบทความนี้ เราจะมารีวิวมินิซีรีส์เรื่อง Be My Boyfriend เป็นซีรีส์นักเรียนวัยใส เอาใจคนอยากกลับไปเป็นเด็กมัธยมอีกครั้ง ไหนใครเป็นคอซีรีส์นักเรียนมัธยมบ้าง🙋♀️ เราไปอ่านรีวิวกัน ^_^��Be My Boyfriend(2021)มีทั้งหมด 15 ตอนตอนละประมาณ 10 นาทีสามารถรับชมได้ทาง Wetv เรื่องย่อ Be My Boyfriend(2021)เรื่องรางของ โอจีนา รับบทโดย ลีซีวู นักเรียนสาวสุดป๊อปประจำโรงเรียน ซึ่งเธอถูกแฟนเก่าตามตื้อ แต่เธออยากจะปฏิเสธเขา เธอจึงชี้ไปที่รูปนักเรียนชายคนหนึ่งและบอกว่าเป็นแฟนใหม่ของเธอ ซึ่งรูปนักเรียนชายคนนั้นก็คือรูปของ อีซึงมิน รับบทโดย ชินฮยองซึน นักเรียนชายที่แสนธรรมดาคนหนึ่ง แฟนเก่าของเธอจึงไม่เชื่อว่าเป็นแฟนใหม่ของเธอจริงๆ เธอจึงต้องสร้างความสัมพันธ์แบบหลอกๆขึ้นมา แล้วความสัมพันธ์นี้จะมีโอกาสพัฒนาเป็นความสัมพันธ์จริงๆหรือไม่นั้น ต้องไปติดตาม นักแสดงนำโอจีนา รับบทโดย ลีซีวู นักเรียนสาวสุดป๊อปประจำโรงเรียนที่ทำอะไรก็เป็นเทรนด์ไปหมดอีซึงมิน รับบทโดย ชินฮยองซึน นักเรียนชายธรรมดาที่แทบไม่มีใครรู้จักกลับแอบชอบนางเอกสุดป๊อปคูฮยองทัค รับบทโดย อิมซองกยุน นักเรียนชายสุดหล่อที่เป็นแฟนเก่าที่ไม่เอาไหนเอาซะเลยซองฮันนา รับบทโดย ชเวยูจู เพื่อนของโอจีนาที่แอบชอบผู้ชายคนเดียวกันhttps://twitter.com/wetvphilippines/status/1432767474408194052?s=46t=F5t0AYpRtLfOwcaX5FekeQรีวิวซีรีส์ Be My Boyfriend(2021)เรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องได้เร็วเลย โทนภาพให้ความรู้สึกสบายตา เนื้อเรื่องเบาสมอง ใครที่เครียดจากงานหรือเรียนหนัก เราแนะนำเรื่องนี้เลย มีโมเม้นเขินอายเยอะมากๆ ฟินจิกหมอนเลยล่ะ และผู้ชายเรื่องนี้งานดีมาก^_^ ไม่ว่าจะเป็นพระเอกหรือแฟนเก่านางเอกคืองานดีที่สุด ถ้าเราเป็นนางเอกเราเลือกไม่ได้แน่เลย อ่อแต่เราไม่ใช่นางเองนี้น่า😆 มาต่อกันที่ตัวละครต่างๆ เรามองว่าทุกคนแสดงได้เก่งมากๆ ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครเสริมอย่างเช่นเพื่อนพระเอกหรือนางเอก ก็สามารถเพิ่มสีสันให้ซีรีส์ได้เยอะเลย และที่สำคัญซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ Spin-Off ของมินิซีรีส์เรื่อง "Best Mistake" เรื่องที่เราได้รีวิวไปแล้วไปดูรีวิวกันได้นะ😛 รับประกันได้เลยว่าเรื่องนี้ก็สนุกไม่แพ้กับเรื่องก่อนแน่นอน สำหรับเรื่องนี้เราให้คะแนน 10/10 ไปเลยเรามีคลิปเบื้องหลังมาฝาก อย่าแอบยิ้มตามก็แล้วกันนะ:-)https://www.instagram.com/p/CMMlwEjH_jw/?igshid=YmMyMTA2M2Y= https://www.instagram.com/p/CMEwXbBnqLi/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ขอบคุณสำหรับการอ่านบทความนี้ หากบทความนี้ผิดพลาดจุดไหน ต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะฝากติดตามบทความต่อๆไปด้วยนะคะ💛เครดิตภาพจาก Twitter koktv official: ภาพปก,ภาพที่ 2, ภาพที่ 1จาก Twitter WeTV Philippiness:ภาพที่ 3จาก Instargram lucky_hyeons : ภาพที่ 4,ภาพที่ 5 ชวนแต่งแฟนซี หลอน สวย เซ็กซี่หรือสร้างสรรค์ ถ่ายภาพหรือวิดีโอ แล้วโพสต์ที่ TrueID Community ห้อง "13 สยองขวัญ"สำหรับผู้ที่ยอดกดไลค์สูงสุด 5 อันดับแรกอันดับที่1 : (ต้องมียอดไลค์เกิน 150 ไลค์) เงินรางวัล 3,000 บาทอันดับที่ 2-5: (ต้องมียอดไลค์เกิน 50 ไลค์) เงินรางวัล รางวัลละ 1,000 บาท (รวม 4 ท่าน 4,000 บาท)STAR COVER ส่งภาพเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 65 ถึง 3 พฤศจิกายน 65***
Nseries • 30 ต.ค. 65
อ่าน
How To Train Your Dragon 3 ปล่อยตัวอย่างแรกซับไทยเอาใจแฟนๆ
จุดเริ่มต้นจากมิตรภาพเหลือเชื่อระหว่างไวกิ้งหนุ่มกับมังกรไนท์ฟิวรีที่น่าสะพรึงกลัว ได้กลายเป็นไตรภาคอีพิคที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของพวกเขา ในตำนานบทใหม่นี้ ในที่สุด ฮิคคัพและทูธเลสก็จะได้ค้นพบโชคชะตาที่แท้จริงของพวกเขาเสียที นั่นคือการเป็นหัวหน้าหมู่บ้านในฐานะผู้นำของเหล่าเบิร์ค เคียงข้างแอสทริด และการเป็นมังกรผู้นำฝูง ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะขึ้นครองอำนาจ ภัยคุกคามที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเผชิญ รวมถึงการปรากฏตัวของไนท์ ฟิวรีเพศเมีย จะทดสอบสายสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างพวกเขาอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน How To Train Your Dragon 3 เข้าฉาย 28 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์
ข่าวบันเทิง • 8 มิ.ย. 61
อ่าน
My Understanding of how GPT-3 works...
So I have been binge reading on GPT-3. Basically from my understanding it has every single text ever written, all of the internet, and a lot of private datasets and archives as its training data.Then OpenAI (Founded by Elon Musk) have honed in one a single Machine Learning approach called "Natural Language Processing" (NLP). This isn't the most popular Machine Learning approaches. But OpenAI decided to keep pushing forward with it and see how far they can get. So with everything every written ever as training data and the NLP approach the system started to be able to predict the most probable and common next word that that input would most likely have. So by priming it with a few paragraphs of text it's able to then predict the most probable answer. Which happens to be a completely average and generic, answer, which also happens to be something sort of like a horoscope; generally they all feel like they could apply to anyone. Or another way to look at it, it's the most probable answer for any give question or input. GPT stands for Generative Pretrained Transformer, which I have read basically means it uses a gradient. It puts 175 billion (for GPT-3, and 8 million on GPT-2) parameters on a scale which looks like a gradient, and then it ranks every single parameter on that scale. Then from the scale it can predict what is the most likely next word in the sentence based off of the primer. GPT-4 is going to be mind-blowing.
อินเทรนด์ความรู้ • 6 ส.ค. 63
อ่าน
[รีวิวเกม] “My Friend Pedro” นี่มันจอห์นวิคที่รับงานจากกล้วยชัด ๆ !!
แม้รีวิวนี้จะเป็นการหยิบเกมเก่าตั้งแต่ปี 2019 มาเล่น แต่สำหรับผมที่ไม่เคยได้เข้ามาสัมผัสกับเกมนี้มาก่อนแถมเพิ่งจะได้ยินชื่อของเกมนี้เป็นครั้งแรกซะด้วย (ฮา) หลังเล่นจบก็สงสัยตัวเองเลยว่านี่ผมพลาดเกมนี้ไปได้ยังไง และก็เชื่อเลยว่าต้องมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้สัมผัสกับเกมอินดี้ที่มีเกมเพลย์สไตล์ที่เล่นสนุกขนาดนี้ ดังนั้นใครที่เพิ่งจะเคยได้ยินชื่อเกม My Friend Pedro ขอให้เปิดอกเปิดใจและลองอ่านรีวิวนี้ดูไม่แน่ว่าคุณอาจจะเป็นอีก 1 คนที่พลาดเกมมัน ๆ คุณภาพเกินราคาแบบนี้เหมือนผมก็ได้ My Friend Pedro – Bananas Official Trailer My Friend Pedro คือเกมแนว side scroller shooter หรืออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็เป็นเกมยิงปืนมุมมองด้านข้างนั่นเอง โดยเนื้อเรื่องภายในเกมนี้อาจจะไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นมาก เราจะได้รับบทบาทเป็นมือปืนฝีมือดีที่ตื่นขึ้นมาแล้วความจำเสื่อมและได้เจอกับเจ้า Pedro กล้วยสายปั่นลอยได้มาบอกถึงเรื่องราวต่าง ๆ และบอกจุดมุ่งหมายแก่เรา ซึ่งก็ดูจะเป็นอะไรที่เรียบง่ายและไม่ค่อยมีอะไรมากเน้นเข้ามายิง ๆ เอามันแค่นั้น แต่ตัว Pedro นี่แหละที่จะเป็นตัวละครที่ทำให้การเดินทางของเราไม่น่าเบื่อและน่าติดตามยิ่งขึ้น เพราะบทสนทนาต่าง ๆ ค่อนข้างทำออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยมุกแป๊ก ๆ เหน็บแหนมสังคมที่อ่านแล้วรู้สึกตลกร้ายแบบแปลก ๆ โดยรวมถือว่าการนำเสนอเนื้อเรื่องทำออกมาได้ค่อนข้างดีสำหรับเกมที่ไม่ได้มีจุดขายที่เนื้อเรื่องแบบนี้ ถือปืนคู่ ไล่ยิงคน ตามคำแนะนำของกล้วย สำหรับรูปแบบเกมเพลย์ของเกมนี้ถือว่าเป็นอะไรที่เข้าใจได้ง่ายแสนง่าย คือเราก็แค่เดินทางไปข้างหน้าเรื่อย ๆ แล้วจัดการยิงศัตรูทุกคนที่ขวางหน้าให้หมดเป็นอันจบ ไม่มีการฟาร์มของ อัปตัวละคร สำรวจฉาก หรือต้องมานั่งหลงทางหาทางไปต่ออะไรให้ปวดหัวเลย เรียกได้ว่าเชิญผู้เล่นเสพกับระบบแอ็กชันได้แบบเต็มสตรีมเลยครับผม โดยวิธีควบคุมก็ถือว่าไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนักเพียงแต่ถ้าอยากเก่งก็ต้องบังคับให้คล่องเท่านั้น แค่เดินหน้าถอยหลังกระโดด เล็งไปในทิศทางที่เราต้องการจะยิงและยิง ซึ่งก็ถือว่าเป็นระบบพื้นฐานของเกมมุมมอง side scroller เลย แต่สำหรับเกมนี้จะมีระบบเฉพาะที่เพิ่มเข้ามาให้เกมเพลย์มีสันมากขึ้นเรียกว่ามันคือทักษะพิเศษของตัวละครเราเนี่ยแหละ ซึ่งพอมีสิ่งเหล่านี้เพิ่มเข้ามาทำให้เกมนี้ไม่ใช่เกมที่แค่เข้ามายิง ๆ แล้วจะสามารถผ่านด่านได้ แต่ผู้เล่นจะต้องใช้ความคิดในการออกแอ็กชันต่าง ๆ เพื่อที่จะผ่านด่านด้วย ระบบสโลโมชันทั้งเท่ ทั้งสะดวก ด้วยความที่ในหลายฉากของเกมนี้เราจะไม่ค่อยเจอศัตรูยืนหัวโด่แค่ตัวสองตัวสักเท่าไหร่ ซึ่งหลัก ๆ ที่เจอบ่อยคือแต่ละฉากจะมีศัตรูเกิน 3 ตัวทั้งนั้น แน่นอนว่าตัวละครเราจะสามารถหาฉากคอยหลบคอยยิงสวนได้ด้วย แต่ใช่ว่าในทุกฉากจะมีที่ให้เราหลบเสมอไปบวกกับการยิงปืนในเกมมุมมองด้านข้างแบบนี้มันค่อนข้างใช้เวลาควบคุมเป้าเล็งพอสมควร เพราะฉะนั้นตัวเกมเลยใส่ทักษะสโลโมชันให้ตัวละครเราสามารถใช้ได้ เพื่อให้เรามีเวลาคิดและหาจังหวะเล็งปืนหรือหลบกระสุนที่รวดเร็วภายในเกมนี้ได้ แถมยังได้ความเท่อีกด้วย แต่ทว่าการใช้การสโลโมชันนี้จะมีระยะเวลาในการใช้จำกัดตามเกจพลังของตัวละครเรานะครับ การหลบกระสุนในเกม นอกจากนี้ในกรณีที่เราไร้ที่กำบังกำลังตกเป็นเป้านิ่งกลางที่แจ้งแล้วกำลังจะโดนกระสุนจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาหาที่แม้แต่การสโลโมชันก็ไม่สามารถหลบได้แน่นอน ตัวละครเรายังมีทักษะหลบหลีกแบบ 100% ด้วย โดยหากกดใช้งานตัวละครเราจะทำการหมุนตัว 360 องศาแล้วจะไม่ได้รับดาเมจจากการโจมตีของศัตรูเลยสักดาเมจเดียว แต่ทว่าหากใช้ท่านี้ตัวละครเราจะไม่สามารถเล็งปืนไปในทิศทางที่ต้องการได้อิสระ หรือก็คือความแม่นจะหายไปกลายเป็นความมั่วแทน การเล่นกับฉากที่เพิ่มลูกเล่นให้กับเกมเพลย์ ยิ่งเราตะลุยด่านไปเรื่อย ๆ ฉากต่าง ๆ ที่เราจะต้องทำการเข้าไปต่อสู้ก็จะยิ่งมีลูกเล่นต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาให้ผู้เล่นสามารถใช้งานเพื่อช่วยเพิ่มทางเลือกในการออกท่าทางสังหารศัตรูมากขึ้น อย่างเช่นการวัตถุต่าง ๆ อัดใส่ศัตรู ไต่สลิงลอบฆ่า ดันถังให้ลงมาทับศัตรูที่อยู่ข้างล่าง เตะโต๊ะให้ล้มเพื่อเป็นที่กำบัง ยิงถังให้ระเบิดเป็นต้น ด้วยความที่เกมเพลย์ของเกมนี้ค่อนข้างจะรวดเร็วมาก ๆ การสังเกตุและใช้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ตามฉากให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึงเป็นอะไรที่วัดไหวพริบของผู้เล่นแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ปืนคู่ อาวุธคู่กาย เสียดายมีน้อยชนิด สำหรับเกมนี้เราจะมีอาวุธคู่กายติดตัวมาตั้งแต่เริ่มต้นก็คือปืนพกคู่ 2 กระบอกที่มีกระสุนให้ใช้ไม่จำกัดแต่ก็ต้องมีการรีโหลดถ้าหากกระสุนหมดแม็ก (ไม่สามารถยิงได้ตลอดเวลา) ซึ่งเราสามารถเลือกเล่นได้ด้วยว่าอยากใช้ปืนแค่กระบอกเดียวหรือถือเป็นปืนคู่ นอกจากนี้เรายังสามารถเก็บอาวุธของศัตรูที่หล่นตามพื้นได้อีกด้วย แต่ทว่าอาวุธของศัตรูนั้นจะมีกระสุนที่จำกัดถ้าอยากได้กระสุนเพิ่มจะต้องเก็บอาวุธชนิดเดิม ๆ มาให้ได้กระสุนในคลังก็จะถูกบวกเพิ่มเข้าไปอย่างอัตโนมัติ ซึ่งตรงจุดนี้ก็ถือว่าค่อนข้างน่าเสียดายที่ชนิดของปืนภายในเกมนี้ถือว่ามีให้เล่นน้อยเกินไปหน่อยทั้ง ๆ ที่เกมเพลย์มีแต่การยิงปืนแท้ ๆ เล่นจนคล่องนี่มันจอห์นวิคชัด ๆ ด้วยเกมเพลย์ที่รวดเร็วบวกกับทักษะต่าง ๆ ที่ตัวละครเรานั้นมีทำให้เมื่อถึงจุดที่เราสามารถควบคุมตัวละครจนคล่องแล้วล่ะก็จะเป็นอะไรที่เล่นสนุกมาก ๆ และยิ่งพอมาบวกเข้ากับซาวด์เอฟเฟกต์และเพลงประกอบของเกมนี้ จะให้อารมณ์เหมือนในหนังเรื่อง จอห์นวิก แบบมาก ๆ ทั้งหลบกระสุน ทั้งยิงสวนแบบรวดเร็ว ใช้ฉากและอาวุธรอบตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใช้ไหวพริบในการสังหารศัตรูอย่างรวดเร็ว เลเวลดีไซน์ก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งเล่นก็ยิ่งมีอะไรใหม่ ๆ ให้ทำให้ทดลองเรื่อย ๆ แถมความยากกำลังดีไม่ยากไปไม่ง่ายเกิน ด้วยเกมราคาเท่านี้กับคอนเทนต์ที่เราจะได้เล่นถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าเกินราคามาก ๆ ถ้าใครชอบเกมสไตล์แบบนี้แนะนำให้ลองซื้อมาสัมผัสด้วยตัวเองดูสักครั้งนะครับ เป็นประสบการณ์การเล่นเกมอินดี้ที่สนุกมาก ๆ ข้อสังเกตุหลัก ๆ ของเกมนี้นอกจากเรื่องมีปืนให้เล่นน้อยแล้วนั้น เกมนี้ก็น่าจะไม่เหมาะกับผู้เล่นที่ไม่ชอบเกมที่มันไว ๆ สักเท่าไหร่ เพราะเกมนี้มันเร็วจริง แบบทั้งเร็วแถมยังมีสิ่งที่ต้องสังเกตุมากมายผ่านเกมเพลย์ที่เร็วขนาดนี้ เรียกได้ว่ามีเวลาให้คิดวิเคราะห์ในการต่อสู้สั้นมาก แต่ก็วัดไหวพริบการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่สนุกดี ที่มา Steam
แบไต๋ • 27 ธ.ค. 65
อ่าน
รีวิว How to Train Your Dragon (2025) ฉบับ Live Action
ดีใจที่ได้พบกันอีกครั้ง โดยครั้งนี้เรามาพร้อมกับมังกรตัวสีดำที่มีชื่อว่า เขี้ยวกุด หรือ ทูธเลส จากเรื่อง How to Train Your Dragon โดยเรื่องนี้มีแอนิเมชันถึง 3 ภาค และล่าสุดที่เป็นที่รอคอยอย่างมากคือ ฉบับ Live Action ซึ่งหลังจากเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ก็ได้เสียงตอบรับล้นหลามถึงความสมจริงของตัวละคร เราที่ได้ดูแล้วก็จะขอมารีวิวเรื่อง How to Train Your Dragon (2025) บ้าง เรื่องราวมิตรภาพต้องห้ามระหว่างเด็กหนุ่มชาวไวกิ้งกับมังกรไนท์ฟิวรี่กลายเป็นสิ่งชี้ชะตาอนาคตของสองเผ่าพันธุ์ เมื่อภัยคุกคามในอดีตหวนกลับมา รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ตัวอย่าง : https://www.youtube.com/watch?v=TcNHdnRfM8s เรื่องย่อ : ฮิคคัพ เด็กหนุ่มไวกิ้งที่มุ่งมั่นตามล่ามังกรได้บังเอิญเจอกับ ทูธเลส มังกรไนท์ฟิวรี่ที่น่าเกรงขาม มิตรภาพที่ไม่น่าเป็นไปได้ทำให้เขาเห็นสิ่งที่แท้จริงของเหล่ามังกร แต่เมื่อภัยคุกคามจากอดีตกลับมาสั่นคลอนชีวิตของชาวไวกิ้งและมังกร มิตรภาพของพวกเขาจึงกลายเป็นสิ่งชี้ชะตาอนาคตของสองเผ่าพันธุ์ ประเภท : ผจญภัย | แฟนตาซี นักแสดง : เมสัน เทมส์ (Mason Thames), นิโค ปาร์คเกอร์ (Nico Parker), เจอราร์ด บัตเลอร์ (Gerard Butler) เวลา : 2 ชั่วโมง 5 นาที ตัวละครหลัก : ฮิคคัพ รับบทโดย เมสัน เทมส์ แอสทริด รับบทโดย นิโค ปาร์คเกอร์ ความรู้สึกหลังจากรับชม : หากใครคาดหวังเนื้อหาที่แตกต่างจากเวอร์ชันแอนิเมชันอาจจะผิดหวังได้ เพราะฉบับ Live Action นี้คือการนำ How to Train Your Dragon (2010) แอนิเมชันภาคแรกมารีเมคเป็นเวอร์ชันคนแสดง เนื้อหาจึงยังคงเดิมเพราะทำได้เคารพต้นฉบับมาก แต่สิ่งที่แฟนหนังน่าจะประทับใจคือ ความสมจริงที่มีมากขึ้น เพราะว่าเราจะได้เห็นชาวไวกิ้งและมังกรตัวเป็น ๆ เหมือนเกาะเบิร์กมันอยู่ที่ไหนสักที่บนโลกของเรา ขอพูดถึงความน่ารักของเหล่ามังกรก่อนเลยละกัน เขี้ยวกุดตาแป๋วน่ารักมากกก มังกรตัวอื่น ๆ ก็ถอดแบบมาจากแอนิเมชันเป๊ะเลย นักแสดงที่มารับบทเป็นฮิคคัพก็ดี คือมันเก็บทุกรายละเอียดของแอนิเมชันมาครบ หนังจึงออกมาเริ่ดสมการรอคอย แต่ตามที่บอกว่าเนื้อเรื่องมันเหมือนเดิมก็เลยรู้หมดว่าจะเกิดอะไรขึ้นจึงไม่ลุ้นละ แต่งานภาพที่ดีก็ทำให้ดูจนจบได้นะ จบกันไปแล้วกับการรีวิว How to Train Your Dragon (2025) คนที่ดูแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างมารีวิวกันได้ ถ้าหากแฟนแอนิเมชันคนไหนยังไม่ได้ดูก็อย่าลืมไปดูความน่ารักของฮิคคัพและเจ้าเขี้ยวกุดฉบับ Live Action กันนะ ขอบคุณภาพปก ภาพประกอบ และวิดีโอ จาก ภาพปกที่ 1, 2, 3 / X : Major Group ภาพประกอบที่ 1, 2, 3, 4, 5 / X : Major Group วิดีโอที่ 1 / Youtube : Major Group จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
jhm • 29 ก.ย. 68
อ่าน
รีวิว How to Train Your Dragon มิตรภาพเหนือสายพันธุ์
เรื่องย่อ How to Train Your Dragon : อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! บนเกาะเบิร์กอันห่างไกลกลางทะเลที่โอบล้อมด้วยภูเขาสูงชันและหมอกหนาทึบ มีชาวไวกิ้งดำรงชีวิตด้วยหัวใจกล้าและคมดาบ พวกเขาเรียนรู้ที่จะต่อสู้กับศัตรูที่น่าเกรงขามที่สุด และมังกรคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามและต้องกำจัดทิ้งอย่างไม่ลังเล ทว่าในหมู่บ้านที่ความกล้าคือทุกสิ่ง "ฮิคคัพ" ไวกิ้งหนุ่มผู้ชาญฉลาดแต่ไม่เข้าพวก กลับเลือกทางเดินที่ต่างออกไป เมื่อเขาบังเอิญพบกับ "ทูธเลส" มังกรไนท์ฟิวรีสายพันธุ์หายากและทรงพลังแทบไร้เทียมทาน ฮิคคัพกลับไม่ลงมือสังหารตามธรรมเนียม แต่เลือกจะเข้าใจ เรียนรู้ และสร้างมิตรภาพแทน การตัดสินใจนั้นไม่เพียงแต่เปลี่ยนชะตาชีวิตของเขาเท่านั้น หากยังสั่นคลอนความเชื่อดั้งเดิมของทั้งเผ่าไวกิ้ง และเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเหล่ามังกรที่ไม่เคยมีใครกล้าค้นหา แต่สันติภาพไม่ได้มาอย่างง่ายดาย เมื่อภัยคุกคามจากอดีตทั้งจากโลกของมนุษย์และมังกรหวนกลับมาอีกครั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างฮิคคัพกับทูธเลสกลายเป็นกุญแจสำคัญในการนำพาทั้งสองเผ่าพันธุ์ให้ร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูที่ยิ่งใหญ่กว่า และร่วมกันวาดเส้นทางใหม่ที่ไม่เคยมีใครกล้าเดิน ท่ามกลางสงคราม ความกลัว และการตั้งคำถามถึงความถูกต้อง ฮิคคัพต้องเรียนรู้ว่า “ความกล้าหาญ” ไม่ได้หมายถึงการต่อสู้เพื่อชัยชนะเพียงอย่างเดียว แต่คือการลุกขึ้นเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าจะต้องยืนเดียวดายก็ตาม และนี่คือเรื่องราวของมิตรภาพ การเติบโต การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่จะพาทั้งมนุษย์และมังกรก้าวข้ามขอบเขตแห่งอดีต สู่อนาคตที่ทั้งสองเผ่าพันธุ์สามารถบินเคียงกันได้อย่างเสรี https://youtu.be/22w7z_lT6YM?si=QfTl17YnarQ-SbyA รีวิวจากผู้เขียน ขอออกตัวก่อนว่าเคยดูเวอร์ชันการ์ตูนมาก่อน พอมาเจอเวอร์ชันคนแสดงเลยคิดว่ามันน่าจะเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนคนแสดง แต่พอดูจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่แค่เหมือนเดิม แต่มันเติมทุกอย่างที่เรารักให้ลึกกว่าเดิมอีกสิบเท่า! เวอร์ชัน Live-Action ของ How to Train Your Dragon คือการรีบูตที่ไม่เพียงแค่รักษาหัวใจของต้นฉบับไว้ได้ครบถ้วน แต่มันยังยกระดับทุกอย่างให้กลายเป็น “มหากาพย์แฟนตาซี” ที่ทั้งลึก ทั้งอบอุ่น และทั้งทรงพลังจนเกินความคาดหมาย ฮิคคัพ ที่รับบทโดย เมสัน เทมส์ ขออวยเลยว่าเป็นการเลือกนักแสดงที่ ถูกต้องที่สุดในโลก! เขาสวมบท "ฮิคคัพ" ได้แบบไม่ต้องพยายามเป็น ฮิคคัพของเขาไม่ใช่ฮีโร่ที่เก่งกาจหรือแข็งแกร่งทางกายภาพ แต่เขา “กล้า” ที่จะมองโลกต่างจากคนอื่น กล้าแม้กระทั่งจะให้อภัยสิ่งที่คนทั้งเผ่าเห็นว่าเป็นศัตรู ซึ่งคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนโลก จะเห็นจากในเรื่องคือจะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป เห็นพัฒนาการจากเด็กขี้อาย กลายเป็นผู้นำที่ทั้งอ่อนโยนและเด็ดขาด เป็นการเขียนบทที่ให้พื้นที่ตัวละครได้ “โต” และให้คนดูอินไปกับทุกก้าวเล็ก ๆ ที่เขาเลือก ทูธเลส หรือเขี้ยวกุด แม้จะสร้างด้วย CG แต่ ทูธเลส คือหนึ่งในตัวละครที่ "มีชีวิต" ที่สุดในเรื่อง ดวงตา ท่าทาง ความเขิน ความดื้อ ความฉลาด และความซื่อสัตย์ต่อฮิคคัพ ทุกอย่างถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน จนลืมไปเลยว่านี่ไม่ใช่มังกรจริง ฉากที่ทั้งคู่เริ่มเชื่อใจกัน ค่อย ๆ เข้าใกล้กันทีละนิด คือซีนที่อบอุ่นจนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้น สิ่งที่หนังทำได้ดีมากคือ มันไม่ใช่แค่เรื่องเด็กกับมังกร แต่มันพูดถึงความกลัวที่สืบทอดกันมาเป็นรุ่น ๆ ความเชื่อผิด ๆ ที่ฝังรากในสังคม และคำถามที่กล้าหาญมากว่า “ถ้าสิ่งที่เรารู้มาตลอด...มันผิดล่ะ?” หนังยังพูดถึงการสร้างสันติในโลกที่ถูกแบ่งด้วยความเกลียดชัง การให้อภัย การเสียสละ และการยอมเจ็บปวดเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า มันคือ coming-of-age story ที่ไม่ใช่แค่ของเด็กคนหนึ่ง แต่ของโลกทั้งใบ แม้จะเป็นหนังที่เน้นเรื่องความสัมพันธ์ แต่ยังมีความมันส์ ฉากบิน ฉากรบ ฉากซิ่งบนหลังมังกรคืออลังการทุกเฟรม ภาพสวย คุมโทนดีมาก แถมทุกฉากไม่ได้ใส่มาให้แค่เท่ แต่มีน้ำหนัก มีความหมายทางอารมณ์จริง ๆ ที่เราชอบอีกอย่างคือทุกฉากทุกซีนในเรื่องนี้คือสวยมาก เพลงประกอบก็เพราะ ทุกอย่างโดยรวมคือดีไปหมดขอยกให้เป็นเวอร์ชันคนแสดงที่ถูกต้อง ไม่มีที่ติเลยเอาไปเลย 10/10 แบบไม่มีลังเล ตอนนี้อยากให้มีภาคต่อไปเรื่อย ๆ ใครยังไม่ดูต้องรีบเลยรับรองว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณเสียใจแน่นอน ถ้าใจคุณเคยบินไปกับมังกรเรื่องนี้... เตรียมใจให้กลับไปอินอีกครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่า “การบิน” ครั้งนี้... พิเศษกว่าครั้งไหน ๆ เครดิตภาพและวิดีโอ ภาพปก : #HowToTrainYourDrago วิดีโอประกอบ : Universal Pictures ภาพประกอบ : ภาพที่ 1/ ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
nongnutii • 21 ก.ค. 68
อ่าน
5 โมเมนต์ความน่ารักของเขี้ยวกุด ใน How to Train Your Dragon
How to Train Your Dragon 2025 ที่ TrueID | 5 โมเมนต์ความน่ารักของเขี้ยวกุด มังกรคู่ใจที่ชวนยิ้มทุกซีน ถ้าพูดถึงแอนิเมชันที่ครองใจแฟน ๆ ทั่วโลกได้ยาวนานหลายปี How to Train Your Dragon ต้องติดหนึ่งในรายชื่ออันดับต้น ๆ แน่นอนครับ และถ้าจะให้เลือกตัวละครที่ทุกคนพูดถึงมากที่สุด ผมเชื่อว่าเกือบ 100% จะต้องเอ่ยชื่อ “เขี้ยวกุด” (Toothless) เจ้ามังกรไนท์ฟิวรีสีดำสุดหายาก ที่ทั้งเท่ ทั้งเก่ง และที่สำคัญคือ น่ารักจนละสายตาไม่ได้เลยครับ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! https://www.facebook.com/photo/?fbid=1196284292537541set=a.629701302529179 ในมุมมองผู้เขียนนะครับ เสน่ห์ของเขี้ยวกุดไม่ได้มีแค่การเป็นมังกรที่บินเร็ว ยิงพลาสมาได้ หรือความเป็น “มังกรในตำนาน” เท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้คนดูหลงรักคือ โมเมนต์ความน่ารัก ความใสซื่อ และความผูกพันกับฮิคคัพ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างอบอุ่นหัวใจมาก ๆ ครับผม วันนี้ผู้เขียนเลยอยากชวนผู้อ่านทุกท่านครับ มาร่วมรีวิว 5 โมเมนต์ความน่ารักของเขี้ยวกุด ที่ดูแล้วบอกเลยว่าต้องยิ้ม ต้องหัวเราะ และบางซีนก็อาจมีน้ำตาซึมด้วยความประทับใจครับ และถ้าใครอยากย้อนชมความน่ารักเหล่านี้อีกครั้ง แนะนำเลยครับว่าดูได้ง่าย ๆ ผ่าน TrueID มีครบทั้งภาค 1, 2 และ The Hidden World คุ้มค่าที่สุดครับผม https://www.facebook.com/TrueID.Official/videos/765939739748025 1. โมเมนต์ “ยิ้มแรกของเขี้ยวกุด” – ความซื่อที่ละลายใจ หนึ่งในซีนที่ผู้เขียนจำไม่เคยลืมคือ ฉากที่เขี้ยวกุดยิ้มเป็นครั้งแรกให้ฮิคคัพ หลังจากเริ่มเชื่อใจและยอมเป็นเพื่อนกันครับ โมเมนต์นั้นมันไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการ แต่กลับเต็มไปด้วยพลังของความอบอุ่นจริง ๆ จากที่ผู้เขียนได้ชมนะครับ แววตาใส ๆ ของเขี้ยวกุดเวลายิ้ม มันสะท้อนถึงการ “เปิดใจ” ของมังกรตัวนี้ ว่าจากสัตว์ดุร้ายที่ใคร ๆ กลัว ตอนนี้เขากำลังยอมรับเด็กหนุ่มคนหนึ่งเป็นเพื่อนสนิทแล้วครับ และการยิ้มแบบตาเป็นสระอิ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย มันน่ารักจนแฟน ๆ เรียกกันว่า “Toothless smile” ที่กลายเป็นมีมดังไปทั่วโลกเลยครับผม 2. โมเมนต์ “เล่นบอลไฟกับฮิคคัพ” – ความเป็นเด็กน้อยในร่างมังกร ฉากที่เขี้ยวกุดเล่นบอลไฟกับฮิคคัพ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ที่น่ารักสุด ๆ ครับ เพราะมันเผยให้เห็นว่าเขี้ยวกุดแม้จะเป็นมังกรไนท์ฟิวรีสุดหายาก แต่จริง ๆ แล้วเขาก็ยังเหมือน เด็กน้อยที่อยากเล่น อยากสนุก ในฉากนั้นเขี้ยวกุดใช้พลังพลาสมายิงเป็นลูกไฟ แล้วก็วิ่งไล่เตะเหมือนลูกบอล บางจังหวะก็หกล้ม ทำท่าตลก ๆ จนฮิคคัพหัวเราะ ผู้เขียนเองก็นั่งยิ้มไม่หยุดครับ เพราะมันเป็นการตัดสลับอารมณ์จากการต่อสู้ที่จริงจัง มาเป็นช่วงเวลาของความผูกพันที่เรียบง่ายแต่โคตรน่ารักครับผม 3. โมเมนต์ “การหึงหวงเวลามีคนมาใกล้ฮิคคัพ” ผู้อ่านทุกท่านครับ เคยเห็นมังกรหึงไหมครับ? ฮ่า ๆ ถ้ายังไม่เคยต้องดูเขี้ยวกุดเลยครับ เพราะเวลาที่มีคนมาใกล้ชิดฮิคคัพ เช่น อัสทริด หรือแม้แต่มังกรตัวอื่น ๆ เขี้ยวกุดจะทำท่าขู่เบา ๆ เดินวน หรือแสดงออกชัดเจนว่า “ฮิคคัพเป็นของฉันนะ” ในมุมมองผู้เขียนนะครับ ความน่ารักมันอยู่ตรงที่ท่าทางหึงหวงของเขี้ยวกุดไม่ได้ดูน่ากลัว แต่กลับออกมาตลก ๆ เหมือนแมวขี้หวงเจ้าของเลยครับผม และนี่คือเหตุผลที่ทำให้แฟน ๆ หลายคนมักเปรียบเขี้ยวกุดว่า เป็นแมวในร่างมังกร เพราะนิสัยและกิริยาบางอย่างมันเหมือนกันจริง ๆ ครับ 4. โมเมนต์ “เรียนรู้การบินร่วมกันครั้งแรก” – ซึ้งและน่ารักในเวลาเดียวกัน อีกหนึ่งซีนอมตะที่ทุกคนต้องจำได้คือ การบินครั้งแรกของฮิคคัพกับเขี้ยวกุด ที่ทั้งสองยังไม่เข้าขากันดีนัก แต่พยายามเรียนรู้จังหวะการบินไปพร้อมกันครับ จากที่ผู้เขียนได้ชมนะครับ ความน่ารักของฉากนี้คือการที่เขี้ยวกุดพยายามจะเชื่อใจฮิคคัพให้ควบคุมหางเทียม และในขณะเดียวกันฮิคคัพก็ต้องเรียนรู้ที่จะ “ฟัง” ร่างกายและจังหวะของเขี้ยวกุด ทำให้ทุกการกระพือปีกเต็มไปด้วยความจริงใจระหว่างเพื่อนสองสายพันธุ์ที่ต่างกันครับ ในฉากนี้เราจะเห็นได้เลยว่าเขี้ยวกุดไม่ได้เป็นเพียง “สัตว์เลี้ยง” แต่เป็น คู่หู คู่ชีวิต ของฮิคคัพจริง ๆ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของสายสัมพันธ์ที่ไม่มีอะไรมาทำลายได้ครับผม https://www.facebook.com/photo?fbid=3229711600645327set=pcb.3229719693977851 5. โมเมนต์ “การเจอรักครั้งแรกกับไลท์ฟิวรี” – ความเขินที่น่ารักเกินต้าน ใครที่ได้ดูภาค The Hidden World คงจะจำได้ดีครับ กับการที่เขี้ยวกุดเจอ ไลท์ฟิวรี มังกรเพศเมียสีขาวสุดงดงาม เป็นรักแรกพบที่ทำให้แฟน ๆ ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา เพราะเขี้ยวกุดดัน ตกหลุมรักแบบไม่เป็นตัวเอง ฉากที่น่ารักสุด ๆ คือการที่เขี้ยวกุดพยายาม “เต้นจีบ” ต่อหน้าไลท์ฟิวรี ทำท่าตลก ๆ กลิ้งไปกลิ้งมา ขยับปีกเก้ ๆ กัง ๆ แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผู้เขียนเองก็ดูไปยิ้มไปครับ เพราะมันทำให้เห็นว่า แม้มังกรไนท์ฟิวรีจะทรงพลังแค่ไหน แต่เมื่อเจอความรัก เขาก็กลายเป็นแค่เด็กชายขี้เขินคนหนึ่งเท่านั้นครับผม มุมมองผู้เขียนต่อความน่ารักของเขี้ยวกุด ในมุมมองผู้เขียนนะครับ เสน่ห์ของเขี้ยวกุดคือการที่เขาไม่ได้ถูกสร้างมาเป็น “มังกรสุดเท่เพียงอย่างเดียว” แต่ทีมงานใส่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ลงไป ทำให้เขามีมิติที่เหมือนสิ่งมีชีวิตจริง ๆ เวลาหึงก็ดูน่ารักเหมือนแมว เวลายิ้มก็ดูจริงใจเหมือนเด็ก เวลาผูกพันกับฮิคคัพก็ดูอบอุ่นเหมือนเพื่อนแท้ ทั้งหมดนี้ทำให้เขี้ยวกุดกลายเป็นหนึ่งใน “มาสคอต” ของโลกแอนิเมชันที่ไม่มีใครแทนได้ครับผม https://www.facebook.com/photo/?fbid=3229711627311991set=pcb.3229719693977851 สรุปและชวนดูซ้ำ ผู้อ่านทุกท่านครับ ถ้าใครคิดถึงโมเมนต์เหล่านี้ หรืออยากย้อนชมความน่ารักของเขี้ยวกุดแบบเต็ม ๆ แนะนำเลยครับว่าต้องดู How to Train Your Dragon ทั้ง 3 ภาคผ่าน TrueID ที่มีให้ดูครบ ครบทั้งเสียงไทยและซับไทย ดูกี่ครั้งก็ยังยิ้มได้ไม่เบื่อครับ คลิกเข้าชม ในฐานะผู้เขียนนะครับ ผมบอกเลยว่า 5 โมเมนต์นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายซีนที่น่ารักไม่แพ้กัน เช่น การซนเวลาเจอของใหม่ การหลับปุ๋ยข้างฮิคคัพ หรือแม้แต่การทำท่าทางเหมือนเลียนแบบคน ทุกฉากคือการยืนยันว่า เขี้ยวกุดคือมังกรที่น่ารักที่สุดในโลกแอนิเมชันครับผม ภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก จาก TrueID ภาพที่ 1 จาก TrueID ภาพที่ 2 จาก TrueID ภาพที่ 3 จาก TrueID ภาพที่ 4 จาก TrueID จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
Story • 17 ก.ย. 68
อ่าน
รีวิวซีรีส์จีน ตกหลุมรักพ่อบ้านกำมะลอ My Boyfriend 2025 เฉินเซิ่งเฮิง & เกาอวี้เฟย
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวมินิซีรีส์จีน เรื่อง ตกหลุมรักพ่อบ้านกำมะลอ My Boyfriend มาวันแรกวันที่ 23 มีนาคม 2025 ออกอากาศทาง WeTV นำแสดงโดยพระเอกหนุ่มเฉินเซิ่งเฮิง ที่มารับบท เสิ่นเชียนเจ๋อ ประกบคู่กับนางเอกสาวเกาอวี้เฟย ที่มารับบท อี้หนิง บอกเล่าเรื่องราวของนางเอกที่ต้องแต่งงานเพื่อจะได้สืบทอดกิจการของครอบครัว เรื่องราวจะสนุกแค่ไหนเชิญไปอ่านกันได้เลย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เป็นเรื่องราวของอี้หนิงนางเอกของเรื่องที่ตอนนี้ตาของเธอซึ่งเป็นประธานบริษัทอี้หยวนกำลังป่วยไม่ได้สติ แต่พ่อเลี้ยงของเธอกลับพยายามที่จะฮุบบริษัทไว้คนเดียว เธอจึงบอกทุกคนว่าตาของเธอเคยบอกว่าจะยกบริษัทให้เธอดูแลดังนั้นตอนนี้เธอควรจะเป็นคนรับผิดชอบดูแลบริษัท แต่พ่อเลี้ยงเธอก็แย้งว่าตาของเธอจะยกให้ต่อเมื่อเธอแต่งงาน นางเอกจึงให้คนไปหาประวัติผู้ชายที่เหมาะสมที่จะแต่งงานกับเธอเพื่อไปทำความรู้จัก แต่กลับมีแต่พวกไม่ได้เรื่องจนนางเอกเห็นประวัติของเสิ่นเชียนเจ๋อพระเอกของเรื่องที่คนหาประวัติบอกว่าตั้งใจแนะนำพระเอกให้หลานสาว นางเอกเห็นว่าน่าสนใจจึงไปเจอพระเอกและตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับพระเอก แต่พระเอกกลับปฏิเสธเพราะมองว่าการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ แต่สุดท้ายพระเอกก็ตกลงแต่งงานกับนางเอกเพราะจริงๆ พระเอกตั้งใจให้คนยัดประวัติของตนไปให้นางเอกเห็น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ต้องไปดูกัน อี้หนิงเป็นหลานสาวของประธานบริษัทอี้หยวน ด้วยความที่พ่อแท้ๆ เสียไปแม่ของเธอจึงไปแต่งงานใหม่ทำให้เธอมีพ่อเลี้ยงที่คอยแต่จะฮุบบริษัทของตาเธอ แต่เธอไม่ยอมจึงต้องหาคนมาแต่งงานด้วยเพราะตาเธอบอกว่าจะยกบริษัทให้ถ้าเธอแต่งงาน เธอคิดว่าสามีเธอต้องเป็นพ่อบ้านที่ดูแลเธอได้ เรื่องนี้เกาอวี้เฟยเล่นออกมาได้ดูเป็นคนมั่นใจ และเป็นตัวของตัวเองมาก เสิ่นเชียนเจ๋อวางแผนให้เพื่อนยัดประวัติตนเองเข้าไปในประวัติผู้ชายที่เหมาะสมจะแต่งงานเพื่อให้นางเอกเลือกตน เขาแกล้งทำเป็นเล่นตัวปฏิเสธนางเอกแต่จริงๆ ก็จะแต่งงานกับนางเอกอยู่แล้ว เขาต้องแต่งเข้าตระกูลนางเอกมาเป็นพ่อบ้านคอยดูแลนางเอก เขาวางแผนเข้าใกล้นางเอกเพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง เรื่องนี้เฉินเซิ่งเฮิงเล่นออกมาได้ดูเป็นคนอบอุ่น อ่อนโยน เสื้อผ้าและคอสตูมทำออกมาได้ดูหรูหราสวยงาม ชุดนางเอกจะเป็นชุดทำงานที่ดูทันสมัย เข้าใจแฟชั่น แต่ก็มีความสุภาพ ดูดี มีระดับ ออกเป็นแนวสาวมั่น ชุดพระเอกก็เป็นชุดเชฟ และชุดสูทที่ดูดีมาก ใส่ออกมาคือหล่อละมุน ฉากก็ทำออกมาได้ดูสวยงาม เป็นเมืองที่ดูมีความทันสมัย แต่ก็มีธรรมชาติที่สวยงาม ชอบบรรยากาศในเรื่องมาก คือบรรยากาศดูสบายๆ ฉากก็เลือกได้ดูสวยงามเข้ากับเนื้อเรื่อง ทั้งในอาคารและนอกอาคารคือสวยมาก เป็นแนวสว่าง สดใส แถมเรื่องนี้ยังมีความน่าสนใจตรงที่พระเอกตั้งใจเข้าหานางเอกอยู่ก่อนแล้วแต่ทำให้นางเอกคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ พระเอกยังตั้งใจทำขนมที่นางเอกชอบเพื่อล่อให้นางเอกสนใจตน ทำให้อยากรู้ว่าทำไมพระเอกจึงทำเช่นนั้น ชอบเรื่องนี้เพราะเป็นแนวโรแมนติกดราม่าที่ดูสบายๆ ดูได้เรื่อยๆ แต่ก็น่าจะมีดราม่าตรงประเด็นที่พระเอกพยายามเข้าหานางเอก พล็อตเรื่องคือนางเอกที่ไม่อยากให้บริษัทของตาตกไปเป็นของพ่อเลี้ยงจึงต้องแต่งงานภายใน 1 อาทิตย์เพราะตาบอกว่าจะยกบริษัทให้ต่อเมื่อเธอแต่งงานแล้ว สุดท้ายได้ไปแต่งงานกับพระเอกที่ตั้งใจวางแผนให้นางเอกสนใจเขา เดินเรื่องได้ค่อนข้างกระชับสมกับเป็นมินิซีรีส์ เคมีพระนางก็ดูน่ารัก ใครชอบแนวนี้ไปตามได้ค่ะ บทความ "ซีรีส์จีน" ที่กำลังออนแอร์ช่วงนี้ รีวิวซีรีส์จีน ลมรักแห่งความหวาน Spring Burning 2025 หลัวเจิ้ง เฉินฟางถง รีวิวซีรีส์จีน มายาเร้นรัก Love Behind the Mask 2025 กว่านเยว่ เฉินซินอวี่ รีวิวซีรีส์จีน ตามให้ทันแล้วฉันจะบอกรักเธอ Race to Romance 2025 เซินฮ่าวหนาน ต้วนจิ่งอี้ รีวิวซีรีส์จีน สตรีเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง The Glory 2025 เฉินตูหลิง ซินอวิ๋นหลาย รีวิวซีรีส์จีน พิษรักเพลิงสมรส Rising from the Ashes 2025 จ้าวซว่าย สวีข่ายซิน อ้างอิง ภาพปก1, ภาพปก2 ตกแต่งโดย canva ภาพที่1และ3, ภาพที่2และ4 ของคุณภาพจาก weibo: 我的主夫男友官微 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Faifun • 24 มี.ค. 68
อ่าน
รีวิวเพลงอัลบั้ม Got it ของ Got7
อันยอง วันนี้เราจะมารีวิวเพลงอัลบั้มแรกของ Got 7 สำหรับใครที่ไม่รู้จัก เราก็ควรมาเริ่มจากการทำความรู้จักก็อตเซเว่นกันก่อนเลย ก็อตเซเว่นคือนักร้องบอยแบนด์ของค่าย JYP Entertainment โดยวงนี้จะมีทั้งหมด 7 คน คือมี เจบี, จินยอง, มาร์ค, แบมแบม, แจ็กสัน, ยูคยอม, ยองแจ ( รูปถ่ายเองจ้าอาจไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ขอโทษนะคะ )สำหรับใครที่ไม่ได้ติ่งก็คงมีความรู้สึกเหมือนเราในตอนแรกว่าหน้าตาก็คล้ายกันไปหมดเลยแถมยังเยอะอีกใครมันจะไปจำได้ แต่พอตอนนี้นึกย้อนไปก็ตลกดี ในตอนแรก ๆ ที่เริ่มชอบก็อตเซเว่นนั้นเราคิดว่าก็อตเซเว่นต้องคีพลุคเป็นคนคูล ๆ แน่ แต่พอเริ่มรู้จักมากขึ้นมันทำให้เรารู้ว่าก็อตเซเว่นเดบิวต์มาเป็นวงตลก คือพวกรายการที่ Got 7 ไปออกนะเกือบทุกรายการอะ ตลกมาก ( รูปถ่ายเองจ้าอาจไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ขอโทษนะคะ )หลังจากออกนอกเรื่องกันมานานเราควรกลับเข้าเรื่องรีวิวอัลบั้มของก็อตเซเว่นก่อน อัลบั้มแรกของ Got 7 คืออัลบั้ม Got ti จะมีทั้งหมด 6 เพลงโดยแต่ละเพลงก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป งั้นเราไปเริ่มรีวิวจากเพลงแรกกันเลยนะ( รูปถ่ายเองจ้าอาจไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ขอโทษนะคะ )1. Hello เพลงนี้เป็นเพลงที่ Got7 สื่อถึงพวกแฟนคลับประมาณว่า สวัสดีคุณเห็นผมใช่ไหมตอนนี้ ช่วยรับฟังผมหน่อยได้ไหม นี้มันคือจุดเริ่มต้นของพวกผม แค่มากับผมคุณจะไม่เสียใจ เพลงนี้เป็นแนวแบบบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาที่ต้องการสื่อถึงแฟนคลับ สามารถฟังเพลงได้ข้างล่างนะhttps://youtu.be/IaWWpuHYnPQ2. Girls Girls Girlsเพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ Got 7 ปล่อยออกมา เป็นเพลงเดียวที่มี MV ในอัลบั้มนี้ เนื้อเพลงของเพลงนี้มันก็จะประมาณว่าผมไม่รู้ว่าทำไม ทั้ง ๆ ที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ผมมองไปก็ทำให้พวกเธอเป็นบ้าแล้ว ลุคของผมสไตล์ความเท่ของผม ผมไม่ต้องทำอะไรเลยพวกเธอก็ชอบผม เพลงนี้เป็นเพลงที่ Got 7 หลงตัวเองมากแต่ให้อภัยแหละเพราะหล่อและก็เป็นความจริงว่าเขาไม่ต้องทำอะไรเลยฉันก็ชอบ สามารถฟังเพลงได้ข้างล่างนะhttps://youtu.be/2sAoKmg7qPI3. I Like Youเพลงนี้เป็นเพลงที่จะกล่าวถึงผู้หญิงคนหนึ่งประมาณว่าเธอไม่ได้เจิดจ้าแต่ก็ส่องสว่างเบา ๆ เหมือนดวงจันทร์ยามค่ำคืน เหมือนดอกไม้ในสวน เธออาจดูเหมือนคนธรรมดา แต่เเท้จริงแล้วเธอพิเศษ เพลงนี้เราเขินมากไม่รู้ทำไมแต่เขินอะ สามารถฟังเพลงได้ข้างล่างนะhttps://youtu.be/vr9aVL6h7pI4. Follow Meเพลงนี้เป็นเพลงประมาณว่า Got 7 จะก้าวไปพร้อมกับแฟนคลับ เพลงที่เหมือนแต่งมาเพื่อขอบคุณแฟนคลับที่อยู่ข้าง ๆ สามารถฟังเพลงได้ข้างล่างนะhttps://youtu.be/oGtR6RANvgA5. Like Ohเพลงนี้เป็นเพลงที่จะกล่าวถึงผู้หญิงคนหนึ่ง ประมาณว่าเธอคือผู้หญิงคนแรก ที่ทำให้ฉันรู้สึกประหม่า ทำให้ฉันคิดถึงเป็นเพลงแนวจีบสาวอะ สามารถฟังเพลงได้ข้างล่างนะhttps://youtu.be/cIq5cCV_Shg6. Playground เพลงนี้เป็นเพลงที่เหมือนพูดถึงวัยเด็กประมาณว่าเมื่อตอนฉันเป็นเด็ก สนามเด็กเล่นเล็ก ๆ เป็นทุกอย่างในโลก ของฉันตอนฉันเด็ก ๆ เป็นเพลงที่บอกเล่าเรื่องรางเก่า ๆ สามารถฟังเพลงได้ข้างล่างนะhttps://youtu.be/egrrc46RMYY( รูปถ่ายเองจ้าอาจไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ขอโทษนะคะ )ในอัลบั้ม Got it นี้เราชอบเพลง l Like You ที่สุดเพลงนี้แบบเราชอบเสียงจินยองมาก แต่เราเมนมาร์คนะ คือที่เราเลือกเพลงนี้จากทั้ง 6 เพลงเพราะเราชอบช่วงทำนองของเพลงนี้ฟังกี่ครั้งก็รู้สึกดีถึงแม้จะร้องได้บ้างไม่ได้บ้างก็เถอะ ขออวดหน่อยอัลบั้มนี้เราได้การ์ดมาร์คด้วยนะ อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มแรกในชีวิตของเราในการเป็นติ่งเกาหลี และ Got 7 ก็เป็นวงแรกที่เราชอบ และยังคงชอบอยู่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะชอบอะไรได้นานขนาดนี้ เพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนขี้เบื่อแต่ Got 7 ก็เป็นข้อยกเว้นสำหรับทุกอย่าง สำหรับใครที่ชอบวงอื่นก็มาคอมเม้นต์พูดคุยกันได้นะเพราะเราก็ชอบอยู่หลายวงเหมือนกัน แล้วมาพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ
MOD_MPDR • 3 เม.ย. 63
อ่าน
รีวิว How To Train Your Dragon ดีไว้ยังไง ก็ยังดีอยู่เสมอมา
ถ้าให้พูดถึงแอนิเมชั่นช่วงต้นยุค 2010s ที่เป็นอีกตำนานของเหล่าเด็ก ๆ ที่เติบโตมาจากยุคนั้น คงไม่มีใครไม่รู้จักกับชื่อของมังกรตัวหนึ่งด้วยภาพลักษณ์และดีไซน์ที่เป็นน่าจดจำขึ้นหิ้งมาก ๆ อย่าง "เพลิงนิล" หรือ "เขี้ยวกุด" จากแอนิเมชั่น "How To Train Your Dragon" ที่ฉีกกฎแอนิเมชั่นในช่วงนั้นสำหรับแนวพล็อตมังกร ที่เปลี่ยนจากการมนุษย์และมังกรไม่ถูกกัน มาเป็นมังกรและมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นมิตรกันได้ จึงเป็นจุดเด่นของแอนิเมชั่นไตรภาคเรื่องนี้ที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ ทั้งด้านกระแสคำวิจารณ์และตัวของรายได้ แม้จะปิดฉากจบไปแล้วหลายปีสำหรับจักรวาลนี้ แต่เมื่อเข้าสู่ยุคอุตสหากรรมภาพยนตร์ล้วนมีแนวไลฟ์แอ็คชั่นดัดแปลงจากทั้งเกมและการ์ตูนอยู่หลายครั้ง ก็ล้วนถึงคิวของเจ้าเขี้ยกวุดที่จะได้ออกมาเฉิดฉายจากลายเส้นการ์ตูนสู่ฉบับคนแสดงบ้างกับเขา ความพิเศษกว่าเรื่องอื่น ๆ ที่ล้วนแล้วถูกดัดแปลงมาเป็นฉบับคนแสดง คือการได้ผู้กำกับคนเดิมที่เคยกำกับฉบับแอนิเมชั่นมากำกับฉบับคนแสดงภาคนี้ด้วย นั้นก็คือคุณ Dean DeBlois คนที่รู้จุดเด่นจุดด้อยที่พร้อมจะขยับขยายหยิบจับมาทำให้ฉบับหนังดีงามเหมือนแอนิเมชั่นได้ดีที่สุด รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! สิ่งแรกที่โดดเด่นเป็นอย่างมากคือโปรดักชันและงานวิชวลเอฟเฟกต์ ที่ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้เกินคาด มังกรในเวอร์ชันนี้ดู “มีชีวิต” จริงจัง ไม่ใช่แค่กราฟิกเงาวับ แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ทำให้เราเชื่อว่า Toothless คือสิ่งมีชีวิตที่จับต้องได้ และมีบุคลิกที่เราเคยรักในเวอร์ชั่นแอนิเมชันกลับมาแบบครบถ้วนทั้งในตัวของ "เขี้ยวกุด" และบรรดาเพื่อนมังกร อาจจะมีความสมจริงมากขึ้นแต่ยังรักษาเสน่ห์เดิมเอาไว้ได้ดีเยี่ยม จังหวะของฉากบินกลางเวหายังคงให้ความรู้สึกตื่นเต้นและอบอุ่นในคราวเดียวกัน โดยเฉพาะฉากไคล์แม็กซ์องค์ท้ายที่พอขยับมาเป็นภาพคนแสดงก็ทำให้ความอลังการตื่นเต้นลุ้นขึ้นเท่าตัวหนักมาก ซึ่งการกำกับและวางช็อตดีไซน์ทำออกมาได้สนุกสนาน How To Train Your Dragon ล้วนแล้วก็ยังเป็นอีกผลงานไลฟ์แอ็คชั่นที่ดีเกินคาดสำหรับเราได้อย่างจังจากความคาดหวังแรกก่อนการดู คือกลัวความเบื่อหน่ายและไม่สร้างสรรค์จากเดิมในการดัดแปลงมาทำใหม่ แต่เมื่อดูจบตัวหนังยังคงคารวะต้นฉบับด้วยการดัดแปลงมาเหมือนเดิมเป๊ะ ๆ ช็อตต่อช็อตตามที่คิด แต่สิ่งที่เกินคาดคืออารมร์ร่วมที่มันยังดูสนุกได้แม้จะเคยดูมาแล้ว หรือกล่าวง่าย ๆ ว่าต้นฉบับมีของดีไว้ยังไง ฉบับนี้ก็หยิบความดีมาใช้ได้คุ้ม ไม่เสียของ แม้จะไม่มีการปรุงแต่งอะไรใหม่มาเลยก็ตามที ด้านนักแสดงนำอย่าง Mason Thames (จาก The Black Phone) ที่รับบท Hiccup ก็ถือว่าทำได้ดีเกินคาด ด้วยการแสดงและคาแร็คเตอร์ที่เหมือนต้นฉบับมาก ๆ เขาถ่ายทอดพัฒนาการของเด็กชายที่ไม่เชื่อในตนเอง สู่ผู้นำที่กล้าหาญได้อย่างน่าประทับใจ ยิ่งซีนเข้าคู่กับซีจีไออย่างเขี้ยวกุดก็ชวนทำให้อินกับการแสดงอารมณ์ตัวละครความเป็นคนได้มากกว่าฉบับแอนิเมชั่น ซึงส่วนนี้ทำได้ดีและได้เปรียบกว่าจนต้องชื่นชมเลย ส่วนตัวละคร Astrid ที่รับบทโดย Nico Parkerก็มีความเข้มแข็งและมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง แม้บทอาจจะไม่ได้ลึกมากเท่ากับในตัวแอนิเมชั่น แต่เธอรับส่งอารมณ์กับ Hiccup ได้อย่างน่ารักกลมกลืนเคมีความเป็นคู่ได้ดี แม้จะพยายามเคารพต้นฉบับ แต่หนังก็มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาบางส่วนให้เข้ากับความเป็นภาพยนตร์คนแสดง เช่น การขยายบทของผู้ใหญ่ในหมู่บ้านไวกิ้ง การเพิ่มฉากดราม่าและความขัดแย้งที่สมจริงมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการลดหั่นเนื้อหาลงมากกว่า รวมถึงการเน้นประเด็น “การอยู่ร่วมกับสิ่งที่แตกต่าง” อย่างเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเหมาะกับผู้ชมรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับต้นฉบับ และตอนนี้ก็อาจจะกลายเป็นผู้ปกครองที่พาลูกมาดูอีกเจนเนอเรชันหนึ่งที่ทำออกมากลมกล่อม จุดที่อาจทำให้บางคนรู้สึกแปลกใจคืออารมณ์ของหนังที่ออกจะ “ขึงขัง” มากกว่าเดิมนิดหน่อย ถ้าใครคาดหวังความน่ารักสดใสเหมือนเวอร์ชันแอนิเมชันอาจจะรู้สึกว่าหนังดูซีเรียสขึ้น แต่ถ้าคุณเปิดใจมองว่านี่คือการรีบูตเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย มันก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่กล้าหาญและมีน้ำหนักในตัวเอง ในภาพรวม How To Train Your Dragon (2025) คือหนังที่ไม่ใช่แค่ทำให้เรา “นึกถึง” เวอร์ชันเดิมเท่านั้นที่เราเคยดูมันจากตอนเด็ก พอโตมาแล้วดูฉบับนี้อีกรอบก็ยังรักและซึ้งใจได้ดีเหมือนเดิม ด้วยโปรดักชันคุณภาพสูง นักแสดงที่ถ่ายทอดบทบาทได้จริงใจ และการตีความที่ “โตขึ้น” ไปพร้อมกับผู้ชม หนังเรื่องนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเก่าหรือผู้ชมหน้าใหม่ ก็มีโอกาสจะตกหลุมรักมังกรอีกครั้งได้ไม่ยากเลยจริง ๆ ขอบคุณแหล่งที่มาของภาพ ภาพหน้าปก 1 จาก Facebook : United International Pictures Thailand ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Facebook : United International Pictures Thailand จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
skylerman • 10 มิ.ย. 68
อ่าน
รีวิว How to Train Your Dragon: The Hidden World “อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร 3”
How to Train Your Dragon: The Hidden World “อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร 3” เป็นแอนิเมชันภาคต่อชื่อดังที่หลายคนดูแล้วต้องบอกว่าเนื้อเรื่องดีมาก และในที่สุดแอนิเมชันเรื่องนี้ก็เดินทางมาสู่ภาคที่ 3 แล้วกับเรื่องราวของฮิคคัพหัวหน้าหมู่บ้านไวกิ้งเผาเบิร์ค ในภาคนี้ฮิคคัพจะต้องเจอกับศัตรูตัวร้ายที่จะมาตามล่ามังกรของพวกเขา รวมถึงประเด็นเรื่องถิ่นที่อยู่อาศัยของไวกิ้งกับมังกร เรื่องราวของตัวแอนิเมชันภาคนี้เปิดเรื่องราวมากับประเด็นความแออัดของเหล่าไวกิ้งกับมังกรที่ดูเหมือนว่าหมู่บ้านของพวกเขาจะคับแคบเกินไปสำหรับมังกรที่มีมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บวกกับพวกเขายังต้องพบเจอกับศัตรูตัวฉกาจที่อยากจะมาฆ่าเขี้ยวกุดของฮิคคัพอีก ดูจากสถานการณ์แล้วจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ฮิคคัพตัดสินใจชวนคนในหมู่บ้านย้ายถิ่นที่อยู่ไปยังเมืองลับแลที่ไม่เคยมีใครเคยค้นพบเพื่อที่จะรอดสายตาคนจากโลกภายนอกมังกรจะได้อยู่อย่างปลอดภัย คนในหมู่บ้านทั้งหมดเลยตัดสินใจออกเดินทางไปตามหาเมืองลับแล นี่ก็เป็นโครงเรื่องคร่าวๆ ของแอนิเมชันภาคนี้ ตัวแอนิเมชันเรื่องนี้ผมต้องยอมรับเลยว่าการให้อารมณ์ต่างๆ ในเนื้อเรื่องทำมาได้ดีมากและเข้าถึงสุดๆ เปิดเรื่องมาก็ทำให้เรารู้สึกอึดอัดตามฮิคคัพกับประเด็นเรื่องการย้ายถิ่นฐาน การตัดสินใจในครั้งนี้ช่างยากเย็นและลำบากใจมากเพราะเป็นหมู่บ้านที่พ่อเขาฝากฝังไว้ก่อนตายให้ดูแลให้ดี นอกจากนั้นตัวเนื้อเรื่องก็เปิดประเด็นเรื่องราวความรักของเจ้าเขี้ยวกุดกับมังกรตัวสีขาว อารมณ์ในช่วงนี้ของตัวเรื่องก็ทำมาได้โรแมนติกโป๊ะฮาใช้ได้เลย ตัวแอนิเมชันตีความประเด็นนี้มาได้น่ารักและเข้าถึงความรู้สึกของเขี้ยวกุดอย่างลึกซึ้ง อย่างที่บอกครับเป็นแอนิเมชันที่เข้าถึงอารมณ์จริงๆ ส่วนเรื่องประเด็นการไล่ล่าก็ทำมาได้ดีไม่แพ้กันทั้งฉากต่อสู้บนอากาศหรือแม้แต่บนเรือต่างก็สนุกตื่นตาแทบทุกฉากที่สู้กัน บวกกับปมเนื้อเรื่องของฮิคคัพเมื่อเขาไม่มีมังกรเขาก็หมดความมั่นใจในตัวเอง “อุ๊ป!!! สปอยล์รึเปล่าน๊า” แต่การตีความประเด็นนี้ของเนื้อเรื่องก็ทำมาได้ดีและน่าสนใจ นอกจากนั้นตัวเนื้อเรื่องก็มีการใส่อารมณ์ดราม่ามาค่อนข้างหนัก สำหรับใครที่รู้ตัวว่าบ่อน้ำตาตื้นผมแนะนำว่าให้เตรียมทิชชูรอไว้ได้เลยเพราะแอนิเมชันเรื่องทำเอาผมเกือบร้องไห้อยู่เหมือนกัน แต่ผมจะไม่ขอเปิดเผยเนื้อหาส่วนนี้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น การเดินเรื่องของแอนิเมชันก็ไหลลื่นดูเพลินไม่มีเบื่อ จากภาพรวมของเนื้อหาก็ไม่ได้มีอะไรมากแต่ก็เดินเรื่องได้ดีจนทำให้เคลิบเคลิ้มไปกับเนื้อเรื่องได้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับงานภาพที่สดใสสวยงามที่ทำให้ยิ่งดูเพลินเข้าไปอีก เป็นงานภาพที่สวยมากจริงๆ ถ้าใครเคยดูหนังเต็มๆ หรือเห็นจากหนังตัวอย่างก็จะรู้ว่าสวยจริงไร้ที่ติมากๆ ผมคงไม่ต้องบรรยายเยอะต้องลองไปพิสูจน์กันเอาเองเลยไม่ผิดหวังแน่นอน โดยรวมแล้วหลังจากที่ผมดูแอนิเมชันเรื่องนี้จบผมรู้สึกได้อารมณ์เหมือนกำลังกินเค้กช็อกโกแลตก้อนโตที่มีเนื้อหานุ่มนวลหวานหอมอร่อยกินง่ายไม่หนักมากและให้ความรู้สึกตื่นลึกหนาบางของรสชาติต่างๆ ที่ผสมกันในตัวแอนิเมชันได้อย่างลงตัว นอกจากนั้นก็ได้รสชาติขมนิดๆ ของช็อกโกแลตจากประเด็นดราม่าของเนื้อเรื่องที่ออกรสหวานนิดๆ อมขมหน่อยๆ แต่ให้รสชาติอร่อยจนน้ำตาแทบไหล เป็นแอนิเมชันที่ดูได้เพลิดเพลินไม่หนักมากเหมือนอาหารจานหลักแต่ถ้ากินหมดหรือเข้าถึงทุกอย่างที่แอนิเมชันจะสื่อก็อิ่มได้ เป็นแอนิเมชันที่สนุกดูเพลินและอบอุ่นหัวใจมากเลยก็ว่าได้ ใครที่ยังไม่เคยดูต้องลองดูกันนะครับ ก็ประมาณนี้สำหรับแอนิเมชันเรื่อง How to Train Your Dragon: The Hidden World “อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร 3”ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Dreamworksภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4ภาพปกบทความ
Neung Thesakura • 20 พ.ค. 63
อ่าน
ชมความน่ารักต่างสายพันธ์ุ How to Train Your Dragon
แฟนคลับชาวไวกิ้งกับมังกรคู่ใจอย่าง How to train your Dragon จากแอนิเมชั่น สู่ ไลฟ์แอคชั่นที่รอคอยมานานแสนนาน ใครที่ยังไม่ดูภาพยนตร์ How to train your Dragon หรือยังดูในโรงภาพยนตร์ไม่จุใจ ตอนนี้ทางทรูไอดีมีให้รับชมแล้วน้าา😍 ชมความน่ารักเพื่อนซี้ต่างสายพันธ์อย่าง “ฮิคคัพและเขี้ยวกุด” แฟน ๆ โลกมังกรมีหรือจะพลาด! เลยจะพาทุกคนมาดูความน่ารักและความเอ็นดูของทั้งคู่ก่อนที่จะไปรับชมกันได้ทาง TrueID น้องเขี้ยวกุดของเราจะน่ารักขนาดไหน ไปดูกันเลยจ้า💓💓 รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! แอนิเมชั่น สู่ ไลฟ์แอคชั่น https://www.instagram.com/p/DF-ThJszM5o/ ใครที่ไม่ใช่สายแอนิเมชั่น แต่ได้มาดูเรื่อง How to Train your Dragon ฉบับคนแสดง ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สนุกมากกกกกกก แต่หารู้ไม่ว่าก่อนที่จะเป็นฉบับคนแสดงก็เคยเป็นแอนิเมชั่นมาก่อน ซึ่งมีทั้งหมด 3 ภาคให้รับชม คาดว่าฉบับคนแสดงหากยังทำต่อและได้รับกระแสวิพากย์วิจารณ์ไปในทางที่ดี ก็อาจจะได้รับชมครบทั้ง 3 ภาคเลยก็ได้ แถมได้ข่าวว่าทางกำลังจะมีภาค 2 ตามมาแล้วด้วย ซึ่งจะฉายช่วงปี 2027 นั่นเอง แอบตื่นเต้นรอไม่ไหวแล้ว 💗 ส่องความน่ารัก “ฮิคคัพและเขี้ยวกุด” เพื่อนซี้ต่างสายพันธ์ https://www.instagram.com/p/DIPxDJMy7g0/ ก่อนอื่นเลยขอพูดถึงเรื่อง CG น้องเขี้ยวกุดที่เป็นขวัญใจของใครหลายคนก่อน ตอนที่มีประกาศทำฉบับคนแสดง แอบหวั่นใจเหล่ามังกรมาก เพราะมังกรตัวอื่นในเรื่องจะเป็นอารมณ์แบบว่าน่าเกรงขาม น่ากลัว แต่สำหรับเขี้ยวกุดจะต้องมีความขี้เล่นแต่ก็อันตรายด้วยเช่นกัน แอบกังวลว่าน้องเขี้ยวกุดจะตรงปกหรือเปล่า แต่พอได้เห็นตัวอย่างที่ถูกปล่อยออกมา มีแต่คำว่า “ถูกต้อง✅” ทั้งหมด ตรงปกทุกอย่าง ไม่มีอะไรน่าผิดหวังเลย น้องเขี้ยวกุดมีความขี้เล่น ดุ๊กดิ๊กเหมือนน้องหมาที่บ้าน ซุกซนตามประสาเด็ก แต่ก็พลังที่น่ากลัวที่น้องต้องรอปล่อยของออกมาทีเดียว เวลาน้องขยับทำอะไรก็ดูน่ารักเอ็นดูไปหมด รวมถึงผู้ขี่มังกรอย่าง “ฮิคคัพ” ที่ได้นักแสดง “เมสัน เทมส์” มาสวมบทคาแรคเตอร์พระเอกนี้ด้วย https://www.instagram.com/p/DHtJVXusg19/ พอได้น้องเมสันรับบทเป็น “ฮิคคัพ” พระเอกของเรื่องนี้ บอกเลยว่าแทบจะยิ้มกรุ่มกริ่มตลอดทั้งเรื่อง เพราะน้องเมสันหล่อมากกกก😍 ยิ้มทีน้องมีเสน่ห์มาก ๆ เล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีการเล่นแข็งหรือเล่นทื่อออกมาเลย และด้วยความที่คาแรคเตอร์ของ “ฮิคคัพ” จะเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ก็อาจจะโชว์ความเป๋อ ๆ มาอยู่บ้าง ซึ่งดูแล้วน่าเอ็นดูมาก ไม่อยากคิดถึงตอนที่น้องโตเป็น ฮิคคัพช่วงวัยผู้ใหญ่หรือเป็นวัยรุ่น คงจะหล่อได้มากกว่านี้แน่ https://www.instagram.com/p/DJcFEkJx2AS/ ฉากที่ทุกคนชอบคืออะไรคะ ? แต่สำหรับของเราคือ ฉากที่ฮิคคัพได้เจอกับเขี้ยวกุดครั้งแรก และฮิคคัพก็พยายามเอาอาหารมาให้น้องเขี้ยวกุดกินอาหาร ช่วงนั้นเขี้ยวกุดยังไม่มีชื่อ จึงถูกเรียกว่า “เพลิงนิล” หรือ “Night Furry” สายพันธ์มังกรที่ไม่ค่อยถูกพบตัวได้ง่าย ไม่มีข้อมูลในตำราเกี่ยวกับมังกร หากพบเจอเพลิงนิล จงภาวนาอย่าให้ถูกพบตัวเด็ดขาด! แต่ฮิคคัพคือไม่จ้า น้องต้องการเอาอาหารมาให้น้องกิน และได้พบว่าน้องไม่มีเขี้ยว แต่แท้จริงแล้วเพลิงนิลสามารถซ่อนเขี้ยวได้ ฮิคคัพเลยตั้งชื่อน้องว่า “เขี้ยวกุด” นั่นเอง https://www.instagram.com/p/DJWgZNDsAK4/ ส่วนอีกฉากที่ชอบด้วยเหมือนกันก็คือ ฉากที่ฮิคคัพและเขี้ยวกุดได้ลองร่วมบินไปด้วยกัน ฉากนี้ขอบอกว่าสวยมาก แอนิเมชั่นที่คิดว่าทำดีแล้ว ไลฟ์แอคชั่นก็สามารถทำดีได้ตามแอนิเมชั่นเลย บอกตรง ๆ เห็นฉากนี้แล้วแอบรู้สึกขนลุกนิดหน่อย คนที่ชื่นชอบแอนิเมชั่นได้มาดูฉากนี้คงได้แอบน้ำตารื้น ใครยังไม่ดูควรรีบดูสิ่งนี้ แค่งานภาพก็คุ้มแล้ว https://www.instagram.com/p/DJ5KOFmSu0e/ และอีกฉากหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ ฉากที่ฮิคคัพถูกยอมรับโดยน้องเขี้ยวกุดแล้วเรียบร้อย ซึ่งเป็นฉากที่ฮิคคัพพยายามยื่นมือลูบหัวน้องเขี้ยวกุด แต่เพราะน้องเขี้ยวกุดยังคงระแวงหรือมักจะถอยห่างฮิคคัพ แต่พอเริ่มรับรู้ถึงความปลอดภัย เขี้ยวกุดก็เลยค่อย ๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้ฮิคคัพมากขึ้น วื่อความหมายว่ารู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้และเชื่อฟังต่อเจ้าของคนนี้ คือฉากนี้แอบน่ารักมาก พูดคำว่าเอ็นดูไปแล้ว 100 ครั้งอยู่ในใจ แล้วทุกคนมีฉากไหนที่ชอบอีกบ้างหรือเปล่า ถ้าหากจำฉากที่ชอบไม่ได้ อยากจะลองรื้อฟื้นกลับไปดูอีกครั้ง ตอนนี้ทาง TrueID มีให้รับชมเรียบร้อยแล้วนะ มีทั้งพากย์ไทยและซับไทยให้เลือกชมตามความชอบกันเลย ดูง่าย ดูสะดวกได้ทุกที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน https://youtu.be/22w7z_lT6YM?si=qtQGWsgK-hLgDU8S รับชมภาพยนตร์ How to Train your Dragon - อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร พากย์ไทย/ซับไทย เครดิตรูปภาพ ภาพปก มีรูปภาพที่ 1 จาก httydragon รูปภาพประกอบที่ 1 , 3 , 5 จาก httydragon วิดีโอประกอบที่ 2 , 4 , 6 จาก httydragon วิดีโอประกอบที่ 7 จาก Universal Pictures จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
ponydiary • 5 ต.ค. 68
อ่าน
รีวิวหนัง How to Train Your Dragon (2025)
ภาพยนตร์ How to Train Your Dragon (2025) ฉบับคนแสดง จะพาเราย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของมหากาพย์มิตรภาพอันยิ่งใหญ่บน เกาะเบิร์ก (Berk) ดินแดนที่ซึ่งเหล่าไวกิ้งผู้แข็งแกร่งดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อที่ว่า "มังกรคือศัตรูตัวฉกาจ" และการสังหารมังกรคือเกียรติยศสูงสุด รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เนื้อเรื่องย่อ เรื่องราวจะโฟกัสไปที่ ฮิคคัพ เด็กหนุ่มไวกิ้งที่ไม่เหมือนใคร เขาผอมบาง อ่อนแอ และไม่ถนัดในการต่อสู้หรือล่ามังกรเหมือนไวกิ้งคนอื่นๆ ฮิคคัพมักจะถูก สตอยค์ พ่อของเขาซึ่งเป็นหัวหน้าเผ่าผู้แข็งแกร่ง ผิดหวังในตัวเขาอยู่เสมอ และเพื่อนๆ ในเผ่าก็มักจะมองเขาเป็นตัวประหลาด แต่แล้วชีวิตของฮิคคัพก็เปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อเขาได้พบกับ เขี้ยวกุด ที่หายากและบาดเจ็บจากการตกหลุมพรางแทนที่จะสังหารมันอย่างที่ไวกิ้งคนอื่นจะทำ ฮิคคัพกลับเลือกที่จะช่วยชีวิตเขี้ยวกุดและค่อยๆ สร้างความผูกพันกับมังกรตัวนี้ มิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นระหว่างมนุษย์กับมังกรที่ไม่น่าจะเป็นไปได้นี้ ทำให้ฮิคคัพเริ่มตั้งคำถามกับความเชื่อเดิมๆ ของเผ่า และค่อยๆ ค้นพบว่ามังกรไม่ได้เป็นเพียงสัตว์ป่าดุร้ายอย่างที่ทุกคนคิด ฮิคคัพและเขี้ยวกุดต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากความไม่เข้าใจของชาวเผ่า และจากมังกรตัวอื่นๆ ที่สร้างความวุ่นวาย ฮิคคัพต้องใช้ความรู้ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับมังกร และความกล้าหาญที่ซ่อนอยู่ภายใน เพื่อเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของชาวเผ่า และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่ามนุษย์และมังกรสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ภาพยนตร์จะพาเราไปสำรวจการเดินทางของฮิคคัพในการค้นหาตัวตน ความหมายของความกล้าหาญ และการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างสองโลกที่เคยเป็นศัตรูกัน ให้กลายเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา วิเคราะห์ วิจารณ์ จุดเด่น ความเคารพต้นฉบับอย่างแท้จริง: นี่คือจุดที่หลายคนยกให้เป็นข้อดีอันดับหนึ่ง ผู้กำกับ Dean DeBlois ซึ่งเคยกำกับหนังชุดนี้ทั้งสามภาค ได้กลับมารับหน้าที่ในเวอร์ชั่นคนแสดงด้วย ทำให้หนังมีความซื่อสัตย์ต่อเนื้อเรื่องหลัก, ตัวละคร, และบรรยากาศของภาคแรกเกือบทุกรายละเอียด หลายฉากที่เป็นสัญลักษณ์ เช่น ฉากการสร้างมิตรภาพระหว่างฮิคคัพกับเขี้ยวกุด หรือฉากการบินที่น่าตื่นเต้น ถูกนำมาสร้างใหม่ได้อย่างน่าประทับใจและให้ความรู้สึกเหมือนเดิม งานสร้างและภาพสุดอลังการ: มังกรและงานภาพกราฟิก ถือว่าทำออกมาได้สมจริงและสวยงามมากๆ รายละเอียดของตัวมังกร, ทิวทัศน์อันงดงามของเกาะเบิร์ก และฉากการต่อสู้ ดูยิ่งใหญ่ตระการตาในแบบฉบับคนแสดง ทำให้ประสบการณ์การรับชมในโรงภาพยนตร์ แนะนำว่าจัด IMAX ไปเลยจะคุ้มค่าและ ฟินมากๆ (โดยเฉพาะฉากบิน) การแสดงที่น่าเชื่อถือ: Mason Thames ในบท ฮิคคัพ และ Nico Parker ในบท แอสทริด ได้รับคำชมว่าสามารถถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะ Mason ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นเด็กหนุ่มขี้อายแต่มีความมุ่งมั่นได้อย่างน่าประทับใจ ส่วน Gerard Butler ที่มารับบทเป็น สตอยค์ หัวหน้าเผ่า ก็สื่ออารมณ์ถึงความดุดัน แข็งแกร่งและอบอุ่นไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่าไม่ฝืนเลยตอนไปดู นักแสดงถ่ายทอดออกมาได้ดี จุดด้อย (ที่มองผ่านก็ได้) การเคารพต้นฉบับ: บางคนอาจจะรู้สึกว่าภาพยนตร์ไม่มีอะไรใหม่ หรือเซอร์ไพรส์มากนัก เหมือนเป็นการ "Remaster" มากกว่าการ "Remake" ที่มีการตีความใหม่ทั้งหมด เลยอาจจะมีความรู้ลึกเล็กๆที่จะไม่ตื่นเต้น เพราะทราบเนื้อเรื่องหลักๆกันอยู่แล้ว ความยาวของภาพยนตร์: บางคนอาจรู้สึกว่าหนังมีความยาวกว่าฉบับแอนิเมชั่นเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้รู้สึกยืดไปบ้างในบางช่วง สรุป How to Train Your Dragon (2025) นี่ไม่ใช่แค่การรีเมค แต่เป็นการคืนชีวิตให้กับตำนานที่อยู่ในใจใครหลายคน คุณจะได้สัมผัสกับงานสร้างที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ฉากบินที่ให้อารมณ์เสมือนทะยานไปบนท้องฟ้าเคียงข้างมังกร และการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกอันลึกซึ้งผ่านการแสดงของนักแสดงที่ถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ ทุกองค์ประกอบล้วนถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยความเคารพต่อเรื่องราวที่แฟนๆ ทั่วโลกรัก ไปสัมผัสประสบการณ์เหนือจินตนาการ มิตรภาพที่ตรึงใจ และการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ แล้วคุณจะรู้ว่า...มังกรไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเสมอไป คะแนน 8.5 / 10 ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก Facebook:HowToTrainYourDragonMovies ภาพปก / 1 / 2/ 3 / 4 / จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
KapuchinO • 8 ก.ค. 68
อ่าน
รีวิว How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกรก ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ
รีวิว How to Train Your Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกรก) ฉบับไลฟ์แอ็กชันที่ดีงามเกินคาด ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า… รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เรื่องย่อ How to Train Your Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกรก) ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของ ฮิคคัพ (เมสัน เทมส์) เด็กหนุ่มผู้เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ สโต๊ยค์ (เจอร์ราด บัตเลอร์) หัวหน้าเผ่าไวกิ้งนักล่ามังกร แม้ว่าพ่อเขาจะแกร่งและล่ามังกรเก่งแค่ไหน แต่ฮิคคัพไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาทั้งตัวเล็ก อ่อนแอ และขี้กลัว เขาถูกพ่อตั้งความหวังไว้สูงว่าเขาจะเติบโตมาเป็นนักล่ามังกรที่แข็งแกร่งเขาจึงอยากพิสูจน์ตนเองเพื่อให้พ่อยอมรับ จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งเขาได้บังเอิญไปพบกับมังกรในตำนานที่บาดเจ็บอยู่ในป่า เขาควรจะสังหารมันเพื่อให้พ่อยอมรับ แต่ด้วยความขี้กลัวและใจอ่อนเขาจึงตัดสินใจที่จะไว้ชีวิตมัน ทว่ามังกรตัวนั้นดันบาดเจ็บและบินไม่ได้ ฮิคคัพก็ได้เข้าไปช่วยเหลือมันและค่อยผูกพันธ์กับมัน สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยยังไง จะสนุก บันเทิง และตื่นตาตื่นใจมากแค่ไหน ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง How to Train Your Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกรก) มีกำหนดการเข้าฉายวันที่ 11 มิถุนายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ ตัวอย่าง How to Train Your Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกรก) รีวิว How to Train Your Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกรก) ภาพยนตร์มีกำหนดการเข้าฉายในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ โดยตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาคแรกของฉบับไลฟ์แอ็กชัน หรือ คนแสดง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีทำออกมาเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันแล้วทั้งหมด 3 ภาค ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก และบอกเลยหลังจากที่ผมได้ไปดูเรื่องนี้มา ผมค่อนข้างมั่นใจมากๆ ว่าฉบับคนแสดงในครั้งนี้ก็จะประสบความสำเร็จและกวาดรายได้มหาศาลได้ไม่แพ้ฉบับแอนิเมชันแน่ๆ เผลอๆ อาจจะไปได้ไกลกว่าเลยด้วยซ้ำ อันนี้คงต้องขึ้นอยู่กับการโปรโมทและกระแสปากต่อปากว่าจะสามารถพาตัวหนังไปได้ไกลแค่ไหน แต่บอกตามตรงเลยว่าใครที่ชอบเรื่องนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วคุณต้องไปดูจริงๆ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยครับ เราเกริ่นกันมานานเกินไปแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลาผมจะเริ่มรีวิวความรู้สึกหลังจากได้ดูเรื่องนี้ให้ทุกคนได้อ่านกันเลย โดยจะพยายามไม่สปอยล์อะไรทั้งนั้น เอาจริงก็อาจสปอยล์ได้มั้ง เพราะตัวเรื่องมันเหมือนกับฉบับแอนิเมชันภาคแรกนั่นแหละ พูดตรงๆ เลยว่าฉบับคนแสดงเรื่องนี้มีความเคารพต้นฉบับสูงมาก แทบจะถอดออกมาเหมือนกันกับฉบับแอนิเมชันแบบเฟรมต่อเฟรมเลย ใครที่กังวลและกลัวว่าฉบับคนแสดงนี้จะทำเสียของ ผมบอกเลยว่าคุณคิดผิด เพราะเขาทำออกมาดีงามและสนุกมากๆ ครบรสทุกอารมร์เหมือนเดิม เผลอๆ มันอาจจะพาเราไปไกลยิ่งกว่าฉบับแอนิเมชันเสียอีก พอเป็นคนมาแสดงมันยิ่งรู้สึกอินได้มากขึ้นไปอีก เขี้ยวกุดก็ดูมีชีวิตจริงๆ และน่ารักโคตรๆ เหมือนเดิม เรียกได้ว่าทำดีทำถึงสุดๆ ผมรับประกันเลยว่าใครที่เป็นแฟนเขี้ยวกุดอยู่แล้ว คุณจะต้องหลงรักหนังเรื่องนี้มากแน่ๆ ในส่วนของการดำเนินเรื่อง ตัวหนังดำเนินเรื่องได้ดี สนุก และดูเพลินมากๆ แทบจะไม่มีน้ำเลย มีแต่เนื้อเน้นๆ เดินเรื่องไว กระชับ ไม่เวิ่นเว้อ ดูได้แบบเพลินๆ รู้ตัวอีกทีหนังก็จบเสียแล้ว บทเขียนมาค่อนข้างดี มีครบทุกอารมณ์ ทั้งดราม่า แอ็กชัน และตลกแบบลงตัว อันนี้ไม่อยากชมเยอะ อาจจะเพราะเคารพต้นฉบับด้วยแหละ มันเลยออกมาดี เนื่องจากต้นฉบับมันทำมาดีมากๆ อยู่แล้ว พอผู้กำกับเอามาทำและไม่เปลี่ยนอะไรเยอะ มันเลยออกมาดีเหมือนเดิม แต่สิ่งที่อยากชมมากๆ คือด้านงานภาพและงานโปรดักชั่น ส่วนนี้คือทำถึงมากๆ ไม่มีการลดสเกลลงเพื่อลดต้นทุน ยิ่งซีนท้ายๆ คือทำดีมาก ตอนดูนี่ผมปลื้มปริ่มสุดๆ เขาจัดหนักจัดเต็มแบบเหมือนถอดแอนิเมชันออกมาให้กลายมามีชีวิตจิตใจขึ้นมาจริงๆ ฉากอลังการงานสร้าง งานซีจีก็ทำออกมาดีแทบไม่มีซีนไหนที่ซีจีลอยเลย มังกรทุกตัวก็ทำออกมาดีมาก อาจจะไม่ได้ดูแบ้วๆ น่ารักเท่าฉบับแอนิเมชัน แต่ก็ไม่ได้ดูโหดร้ายจนน่ากลัว ส่วนนี้ผมชอบมากๆ เขาตีความให้มันมีทั้งความน่ากลัวและความน่ารักผสมกัน ยกเว้นเขี้ยวกุดที่เป็นตัวเอกของเรื่องที่ทำออกมาได้น่ารักสุดๆ เหมือนเดิม ส่วนสุดท้ายที่จะพูดถึงคือด้านการแสดง ส่วนนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเช่นกัน นักแสดงเล่นดีทุกคน โดยเฉพาะตัวละครหลักๆ อย่างพระเอก นางเอก และพ่อพระเอก 3 คนนี้แบกหนังสุดๆ แคสต์นักแสดงมาดีและเหมาะกับบทมากๆ ดูแล้วเชื่อว่าเขาคือ ฮิคคัพ จริงๆ สรุปเลยก็คือ ไปดูกันเถอะครับ ผมเอาหัวเป็นประกันเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน นับไปหนังอีกเรื่องของเดือนนี้ที่ทุกคนไม่ควรพลาด ฝากกดแชร์ และกดติดตามเพื่อจะได้เห็นบทความใหม่ๆ ของผมในอนาคตด้วยนะครับ ช่องทางในการติดตาม กลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก บทความอื่นๆของ ละเลงหนัง รีวิว The Electric State (ท่องแดนจักรวาล) หนังฟอร์มยักษ์เรื่องใหม่จาก Netflix ดูแก้เบื่อได้แต่ไม่ถึงกับยอดเยี่ยม รีวิว Novocaine (มิสเตอร์โคตรคนทรหด) หนังแอ็คชั่นสุดกาวที่ทำโคตรถึง สนุกเกินคาด ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง! รีวิว Bullet Train Explosion บน Netflix หนังญี่ปุ่นฟอร์มยักษ์ สนุก ระทึก รีวิว Zero Day เจาะระบบโลกสะเทือน มินิซีรีส์การเมืองน้ำดีสุดเข้มข้น ที่ไม่ควรมองข้าม รีวิว Melo Movie (หัวใจตึกตัก หนังรักใจฟู) ซีรีส์ดราม่าเคล้าน้ำตาจากเกาหลี ชีวิตรักหม่นๆ ของคนในแวดวงหนัง รีวิว Captain America: Brave New World (กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่) การเปิดตัวกัปตันคนใหม่ที่พอถูไถ ดูได้สนุกเพลินๆ แต่ยังไม่ดีพอจนน่าจดจำ แหล่งที่มาจาก Major Group ภาพปก: 1 ภาพประกอบ: 1 / 2 / 3 / 4 วิดีโอ: How To Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร - Official Trailer [ซับไทย] จาก Youtube: Facebook How To Train Your Dragon เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ละเลงหนัง • 12 มิ.ย. 68
อ่าน
3 เหตุผลที่ต้องดู HOW TO TRAIN YOUR DRAGON
3 เหตุผลที่ต้องดู HOW TO TRAIN YOUR DRAGON 1เรื่องย่อที่น่าติดตาม เป็นหนังไตรภาคที่น่าประทับใจจุดกำเนิดมาจากจากหนังสือของเครสซิด้า โคเวลล์ ที่มีชื่อเสียง ว่าด้วยเรื่องของเด็กหนุ่มไวกิ้งใจเกินร้อย แต่ร่างกายไม่ให้ที่ต้องอยู่ในเกาะที่ต้องต่อสู้กับมังกรเป็นกิจวัตรประจำวัน ที่น่าสงสารคือเขาไม่เป็นที่ยอมรับสำหรับคนในหมูบ้าน เพราะคิดจะทำอะไรก็พังไม่ท่า เค้าจึงคิดจำกำจัดมังกรคนเดียวเพื่อสร้างการยอมรับ แต่ไม่รู้ทำไมมังกรที่อยากกำจัดกลายเป็นเพื่อนซี้ซะงั้น แล้วแบบนี้หนุ่มน้อยจะทำอย่างไรต่อไป จะเลือกเพื่อนหรืออนาคตของตนเอง (ภาค 1)ผ่านมา 5 ปี เกาะและคนในหมู่บ้านไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะต่อนี้เรามีมังกรเป็นสัตว์ตัวใหม่ในหมู่บ้านของเรา แต่พอโตขึ้น ภาระของฮิคคัพและเขี้ยวกุดมังกร ก็มากขึ้นตามไปด้วย เพราะพ่อของเค้าอยากให้ฮิคคัพ ขึ้นมาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแทนเขา แต่ตัวฮิคคัพอยากที่จะท่องโลกให้มากกว่านี้และไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะสมพอไหมที่รับตำแหน่งนี้ พอจะไปหาที่สงบใจก็ดันไปพบแบะแสตามหาแม่ และพบว่ามีกลุ่มที่ล่ามังกรไว้ใช้งานอีก แล้วงานนี้ฮิคคัพ จะแก้ไขปัญหาอย่างไร แล้วจะหาคำตอบให้กับตัวเองได้ไหม ต้องมาติดตามหนังเรื่องนี้กันเถอะ (ภาค 2)กลับมาจากพร้อมกับการตามหาดินแดงมังกรในตำนาน และความรักความสัมพันธ์ที่เป็นบทสรุปของมังกรและชาวไวกิ๊ง กับบทพิจสูจน์ความเชื่อใจจากแผนชั่วร้าย ของตัวร้ายที่ร้ายกาจกว่าที่เคยผ่านมา (ภาค 3)ความประทับใจของนักเขียน มันเป็นความสนุกของหนัง ความอินภูมิใจไปกับตัวละครต่าง ๆ ที่เติบโตขึ้น รวมถึงความรักในครอบครัวที่แสดงออกมาได้ลึกซึ้งที่ทำให้เราร้องไห้ไปกับความผูกพันนั้นที่ให้แง่คิดในหลายมุมมอง ควรทำคิดตาม ดูแล้วไม่เครียด เหมาะกับการดูเป็นครอบครัวเป็นหนังที่สอนเรื่องมิตรภาพ การพิสูจน์ตัวเองได้อย่างดีความทุ่มเทของการสร้างที่ไหนมีมังกร ก็ย่อมมีไฟ และไฟจํานวนมหาศาล เสียด้วย จนทีมงานมีวันที่เรียกว่า “วันเอฟเฟ็กต์” คือวันที่ทีมงานมารวมตัวกันเพื่อชมการแสดงไฟแบบ ต่างๆ ที่ช่างเทคนิคเกี่ยวกับไฟนํามาโชว์ ทั้งการสร้าง ระเบิด สร้างไฟสีฟ้า สีแดงขึ้นมา รวมถึงระเบิดไฟ ที่ทําให้กระจกแตก ภาพทั้งหมดถ่ายทําด้วยกล้อง ที่บันทึกภาพด้วยอัตราสี่ร้อยถึงพันเฟรมต่อวินาที เพื่อเก็บเป็นแหล่งข้อมูล ทำภาพออกมาให้สมจริงที่สุด รวมถึงมีการสร้างมังกรหลายสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมามากมาย จากการเดินทางไปถึง นอร์เวย์ดินแดนของมังกร เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อสร้างความประทับที่สมใจ แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของมังกรตัวละครน่าสนใจฮิคคัพ ฮอร์เรนดัส แฮดดอก ที่ 3 ( Hiccup Horrendous Haddock III) พากย์เสียงโดย เจย์ บารูเซลนิสัย/บุคลิก จากเด็กเนิร์ดผมกะหร่อง กลายเป็นหัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่อย่างสมศักดิ์ศรีจากการต่อสู้กับมังกร เรด เดช ซึ่งให้เขาสูญเสียเท้าซ้ายไป แต่ได้ความกล้าหาญและความนับถือของทุกคนมาแทนความสามารถพิเศษ มีความสามารถในการประดิษฐ์ของต่าง ๆ และมีมังกรคู่ใจคือ ทูเลสทูธเลส, เจ้าหล่อ, เขี้ยวกุด (Toothless)นิสัย/บุคลิก มังกรพันธุ์เพลิงนิล (Night Fury)ที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ ฮิคคัพจับมันได้เพราะ การโจมตีทางอากาศทําให้ครีบที่ หางขาดบินไม่ได้ ฮิคคัพจึงประดิษฐ์ครีบทดแทนทําให้มันบินได้อีกครั้ง แม้เขาเคยทําครีบอัตโนมัติที่ไม่ต้องพึ่งเค้าในการบิน แต่ทูธเลสกลับเลือกที่จะอยู่กับเขาต่อไปความสามารถพิเศษ พันธุ์หายากยิ่ง มันฉลาดที่สุดในมังกรทั้งปวง ถึงได้ มีลูกไฟที่ไม่เหมือนใคร สามารถระเบิดทุกสิ่งที่ขวางหน้าได้ มีท่าไม้ตายคือ Dragon class - Strike มีพลังและความเร็วสูงสุด โจมตีแม่นย่า ฉลาด หายาก แต่ก็จะมีความจงรักภักดีสูงสุดรู้หรือไม่ ชื่อ ทูธเลส (Toothless) ได้มาเพราะตอนแรกฮิคคัพเข้าใจว่ามันไม่ได้มีฟัน แต่จริงๆ มันเก็บซ่อนฟันได้ขอบคุณรูปภาพจาก Dreamwork
Beam • 27 เม.ย. 63
อ่าน
𝐇𝐎𝐖 𝐓𝐎 𝐓𝐑𝐀𝐈𝐍 𝐂𝐀𝐓 ฝึกเจ้าเหมียวอย่างไรให้นอนเป็นเวลา
𝐇𝐎𝐖 𝐓𝐎 𝐓𝐑𝐀𝐈𝐍 𝐂𝐀𝐓 ฝึกเจ้าเหมียวอย่างไรให้นอนเป็นเวลา สวัสดีค่ะทาสแมวทุกคน วันนี้มาพบกับหมอบิ้งค์อีกแล้วนะคะ ในแต่ละวันนี้น้องแมวใช้เวลาหมดไปกับการนอนถึง 16 ชั่วโมงเลยทีเดียวค่ะถึงแม้ว่าจะนอนเยอะแต่ก็นอนไม่เป็นเวลาเอาสะเลย บางคืนก็ชอบตื่นมากวนคนกลางดึกจนทำให้คุณไม่ได้หลับไม่ได้นอนไปด้วยถ้าน้องเหมียวทำตารางการนอนของคุณปั่นป่วนแบบนี้แล้วก็ไม่ต้องเครียดค่ะเพราะวันนี้หมอบิ้งค์มีวิธีการฝึกน้องเหมียวให้เข้านอนเป็นเวลามาฝากค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยวิธีที่ 1 จัดตารางเวลาการนอนของแมว เราสามารถฝึกแมวให้ทำอะไรตามตารางเวลาได้นะคะ เพราะแมวมีนิสัยเหมือนเด็กการทำอะไรซ้ำ ๆ จนเป็นกิจวัตรประจำวันขั้นแรกในการฝึกแมวให้เข้านอนเป็นเวลา เพียงแค่คุณพาเขาตื่นและเข้านอนเวลาเดิมในทุกวันเมื่อถึงเวลาเข้านอนควรจะปิดไฟด้วยนะคะเพราะความมืดเป็นเหมือนสัญญาณบอกแมวให้รู้ว่าถึงเวลานอนหลับพักผ่อนแล้วแต่ก็อย่าลืมว่าแมวชอบเล่นและชอบล่าตอนกลางคืน จนบางครั้งแค่ปิดไฟอย่างเดียวอาจไม่ได้ทำให้แมวง่วงมากพอค่ะเครดิตภาพจากเจ้าของบทความเครดิตภาพประกอบจาก Jp Valery on Unsplashลิงค์ภาพ https://unsplash.com/photos/DE9MM2voqKcวิธีที่ 2 สร้างบรรยากาศเดิม ๆ เพราะแมวปรับตัวตามตารางเวลาได้ง่าย แค่แป๊บเดียวก็จะชินกับพฤติกรรมใหม่ของเจ้าของแล้วล่ะค่ะหากเวลาเข้านอนคุณปิดไฟปิดทีวีเปิดแอร์ ก็ต้องทำแบบเดิมทุกคืน แค่สร้างบรรยากาศเดิม ๆ ก่อนนอนทุกวันแล้วเจ้าแมวจะเริ่มสังเกตเห็นบรรยากาศที่เปลี่ยนไป จนสุดท้ายก็จะจำได้ว่าบรรยากาศแบบนี้คือถึงเวลาเข้านอนแล้วนะคะเครดิตภาพจากเจ้าของบทความเครดิตภาพประกอบจาก Kate Stone Matheson on Unsplashลิงค์ภาพ https://unsplash.com/photos/uy5t-CJuIK4วิธีที่ 3 ปรับการให้อาหาร การให้อาหารแมวก็สำคัญค่ะ เพราะเวลาในการกินจะส่งผลไปถึงเวลาในการนอนเลยทีเดียวค่ะถ้าเราให้อาหารน้องแมวก่อนนอนสักแป๊บนึงนะคะ เมื่อแมวหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนไม่ต่างจากคนเลยล่ะค่ะคนเลี้ยงแมวหลายคนจะสังเกตได้ว่าถ้าให้อาหารเม็ดหรืออาหารกระป๋องสักครึ่งถ้วยในเวลาใกล้จะเข้านอนจะทำให้แมวอิ่มจนหลับเต็มตื่นหากวันไหนคุณอยากนอนตื่นสาย ๆ หน่อยแต่ก็กลัวน้องแมวจะมากวนในตอนเช้าก็หาซื้อเครื่องให้อาหารแมวแบบอัตโนมัติมาใช้เอาไว้ให้อาหารแมวตอนเขาตื่น เครื่องแบบนี้จะตั้งเวลาให้อาหารไหลออกมาได้เป็นกำมือ แบบตรงเวลาเป๊ะเลยล่ะค่ะคราวนี้พอแมวตื่นเช้าขอบคุณแล้วเกิดหิวขึ้นมาก็ตรงดิ่งไปรอเพราะแมวเป็นพวกใจจดใจจ่อรอความหวังถ้ารู้ว่าอาหารจะไหลออกมาจากเครื่องแล้วล่ะก็รับรองว่าตื่นปุ๊บจะรีบไปติดอยู่ข้างเครื่องทันทีทีนี้คุณก็จะนอนหลับยาวได้แบบไร้กังวลแล้วล่ะค่ะเครดิตภาพจากเจ้าของบทความเครดิตภาพประกอบจาก https://foter.comลิงค์ภาพ https://foter.com/ffff/photo/35462554686/89752f3f94/ที่สำคัญอย่าลืมหาเบาะหรือผ้านุ่ม ๆ มาลองให้เขานะคะน้องเหมียวจะได้หลับสบายไปพร้อมกับคุณเลยนะค่ะแล้วสำรับวันนี้หมอบิ้งค์ต้องลาไปก่อนเจอกันใหม่บทความหน้านะคะเครดิตภาพปกจากเจ้าของบทความเครดิตภาพประกอบภาพปกจาก Adam Kuylenstierna on Unsplashลิงค์ภาพ https://unsplash.com/photos/XB6YpNF1QuY
Karla Hogin • 27 มี.ค. 63
อ่าน
เปิดวาร์ป IG ผู้ร่วมรายการ the boyfriend รถกาแฟเร่หารัก+รีวิวรายการ
the boyfriend หรือชื่อไทย รถกาแฟเร่หารัก เป็นรายการเรียลลิตี้เกี่ยวกับการเดทของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งออกอากาศผ่านแฟลตฟอร์มของทาง Netflix เช่นเดียวกับหลายรายการที่เรามักจะได้เห็นกันแต่จะเป็นการเดทกันของผู้ชายและผู้ชาย ซึ่งเราจะได้เห็นอีกมุมมองของการเปิดรับLGBTQIA+ในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น และวันนี้เราจะพาไปเปิดวาร์ปig ของผู้ร่วมรายการนี้กัน1.DAI ได https://www.instagram.com/p/C9RpobCT9dP/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA==ได อายุ 22ปี เป็นนักศึกษา เขาบอกว่าต้องการคนรักที่เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีได้ 2.Taeheon แทฮอนhttps://www.instagram.com/p/C9SLpCgz4gW/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== แทฮอน อายุ 34ปี เป็นดีไซน์เนอร์ เป็นคนเกาหลี ครอบครัวของเขายังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ ซึ่งเขาก็ได้บอกพ่อแม่ของเขาผ่านทางรายการ 3.Ryota เรียวตะhttps://www.instagram.com/p/C45Cp5CSs4o/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA==เรียวตะ อายุ 28ปี เป็นนายแบบและบาริสต้า เขามองว่าความรักก็คือความรักหากเจอใครที่ทำให้ตกหลุมรักก็สามารถที่จะชอบได้เลย โดยที่ไม่ต้องสนเพศ 4.Gensei เก็นเซhttps://www.instagram.com/p/C8_cgAovaBL/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== เก็นเซ อายุ 34ปี เป็นช่างทำผม เขาบอกว่าหากเจอคนที่เข้ากันได้ก็อยากคบเลย อยากได้คนที่มีความเป็นชาย แต่มีอารมณ์อ่อนไหวด้วย 5.Shun ชุนhttps://www.instagram.com/p/C89KBI8Pnc0/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ชุน อายุ 23ปี ทำเพลง และเป็นดีเจ เขาบอกว่าต้องการที่จะได้คนที่มองหาอนาคตและต้แงการแต่งงาน เขาอยากมีลูกและมีความคิดที่จะรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยง 6.Kazuto คาซูโตะุุhttps://www.instagram.com/p/C82ArK7yTea/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== คาซูโตะ อายุ 27ปี ผู้จัดการร้านอาหาร เขาบอกว่าต้องการคนที่สามารถเข้ามาใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน อยากมีคนนอนข้างๆกันหลังจากเลิกงาน 7. Usak ยาซาคุhttps://www.instagram.com/p/C8btgY6yLmJ/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA==ยาซาคุ อายุ 36ปี นักเต้นอะโกโก้ ของผับแห่งหนึ่ง เขาค่อนข้างเป็นคนที่มีชื่อเสียงในวงการนี้ 8.Alan อลันhttps://www.instagram.com/p/C81gCX8Sg42/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA==อลัน อายุ 29ปี ทำงานบริษัท ITของต่างชาติ เขาเป็นลูกครึ่ง บราซิล อิตาลี ญี่ปุ่น หากใครตรงสเปคเขาจะรุกทันที และบอกความรู้สึกไปตรงๆ อลันเคยรู้จักและสนิทกับไดมาก่อน หลังจากได้ชมรายการ the boyfriend รถกาแฟเร่หารักรูปแบบรายการคือ การนำเอาผู้ชายทั้ง8คนมาอยู่ในบ้านเดียวกัน เปิดรายการมีส่งจดหมายให้กับคนที่ชอบ อันนี้ค่อนข้างคล้ายกับรายการเดททั่วไป ความแตกต่างของรายการนี้และน่าจะเป็นซิกเนเจอร์สำคัญคือ ในทุกวันจะมีการออกรายขายการแฟ บนรถFood Truck ในแต่ละวันทางรายการจะเลือกคนไปออกร้าน1คน และคนนั้นจะต้องเลือกคนไปด้วยกัน ซึ่งสิ่งนี้ก็เปรียบเหมือนการได้ไปเดทกัน เพราะทั้ง2ต้องออกไปใช้ชีวิตข้างนอกด้วยกัน2คน คู่ที่ชอบที่สุดในรายการตอนนี้คือ คู่ของชุนกับได น่าจะเพราะชุนกับไดอายุใกล้เคียงกันจึงทำให้จูนกันติดง่าย แต่ตอนนี้ก็ต้องดูกันต่อไปเพราะจากตัวอย่างความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็อาจจะเปลี่ยนไปได้ สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือเพลงประกอบรายการน่ารักและฟังดูหหวานสุดๆhttps://www.instagram.com/reel/C9MVqS8sUVS/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ปก ปก1 netflixjpรูป รูป1 dainakai / รูป2 taehonest / รูปที่3 ryota_32_ / รูปที่4 gensei.am / รูปที่5 shun._.nakanishi / รูปที่6 kaz._.too / รูปที่7 saksaksaksack / รูปที่8 takahashialan / รูปที่9 netflixjp จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
KReview • 13 ก.ค. 67
อ่าน
รีวิว ตกหลุมรักพ่อบ้านกำมะลอ My Boyfriend 2025 มินิซีรีส์จีน เฉินเซิ่งเฮิง x เกาอวี้เฟย
สวัสดีค่ะวันนี้จะมารีวิวซีรีส์จีนเรื่อง ตกหลุมรักพ่อบ้านกำมะลอ My Boyfriend 2025 แนวโรแมนติกคอมเมดี้วัยทำงานธุรกิจครอบครัว เนื้อเรื่องจะสนุกและน่าดูยังไงไปอ่านเรื่องย่อและรีวิวกัน รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! My Boyfriend (2025) ชื่อไทย ตกหลุมรักพ่อบ้านกำมะลอ ชื่อจีน 我的主夫男友 จำนวนตอน 24 ตอนละ 15 นาที ประเภท โรแมนติก คอมเมดี้ ดราม่า เรื่องย่อ เล่าเรื่องราวของ อี้หนิง หญิงสาวผู้ที่เติบโตมาอย่างเข้มแข็งเพื่อที่จะรับตำแหน่งมรดกสืบทอดบริษัทของครอบครัว ตามสัญญาเธอต้องแต่งงานมีสามีก่อนถึงจะกลายเป็นประธานใหญ่ผู้บริหารบริษัท ทำให้เธอได้มาแต่งงานกับ เสิ่นเชียนเจ๋อ เชฟหนุ่มหล่อที่มีกิจการร้านอาหารของตัวเอง ทั้งสองคนได้ตกลงเซ็นสัญญาแต่งงาน แต่เมื่อทั้งสองแต่งงานกันโดยการมีเป้าหมายเป็นของตัวเอง เมื่อวันเวลาผ่านไปพวกเขาเริ่มรู้จักกันและกันมากขึ้นจนก่อเกิดความรักตกหลุมรักอีกฝ่าย อย่างเต็มใจถอนตัวไม่ขึ้น เรื่องราวของพวกเขาจะลงตัวยังไงไปติดตามกัน นักแสดง เกาอวี้เฟย รับบท อี้หนิง ประธานสาวสวยแห่งบริษัทอี้หยวนกรุ๊ป เธอที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ที่แย่งมาได้จากพ่อเลี้ยงหลังจากแม่เสียชีวิต เธอจะมุ่งมั่นที่จะสานต่อบริษัทของครอบครัว ช่วยเหลือญาติสนิทเพียงคนเดียวนั่นก็คือคุณตาของเธอ เพื่อที่จะรับตำแหน่งตามข้อตกลงเธอจึงต้องแต่งงานมีครอบครัว เฉินเซิ่งเฮิง รับบท เสิ่นเชียนเจ๋อ เชฟหนุ่มมีกิจการร้านอาหารชื่อว่าอี้เจียนเสียวก่วน เบื้องหน้าเปิดร้านอาหารเบื้องหลังเขามีตัวตนและแผนการลับๆที่มุ่งจะเข้าหา อี้หนิง เลยกลายเป็นสามีตามสัญญาของเธอ เขาจึงศึกษาตัวเธอทุกอย่างเพื่อที่จะเป็นสามีพ่อบ้านที่สมบูรณ์แบบ รีวิว การดำเนินเรื่อง เป็นซีรีส์เบาๆไม่หนักเท่าไหร่มีทั้งความโรแมนติกคอมเมดี้หวานฟินละมุนและสอดแทรกปมดราม่าต้นเรื่อง การพบเจอกันของพระนางเริ่มต้นจากการที่นางเอกต้องแต่งงานมีสามีถึงจะได้รับตำแหน่งผู้สืบทอดที่คุณตาได้มอบหมาย ทำให้เธอตบปากรับคำพ่อเลี้ยงและเหล่าบรรดาผู้บริหารว่าจะแต่งงานภายใน 1 อาทิตย์ ทำให้เธอต้องคอยหาคู่อย่างจำเป็นจำใจ โดยการนัดบอร์ด แต่ชายหนุ่มที่เข้ามาต่างก็ไม่เข้าตาเธอสักคนจนกระทั่งได้เห็น ประวัติพระเอกในคู่นัดบอร์ด ทำให้เธอรู้สึกสนใจในตัวเขา เลยหาเขาแล้วขอแต่งงานแบบตรงไปตรงมาเริ่มแรกเขาปฏิเสธเธอไป ต่อมาเขาก็ตบปากรับคำตกลงเซ็นสัญญาแต่งงานกับนางเอก แต่หารู้ไม่ว่าการมาของพระเอกนั้นถูกวางแผนด้วยตัวเขาเองอยู่แล้ว เพราะเขานั้นมีแผนการลับๆบางอย่างที่ยืนอยู่ฝั่งบริษัทคู่แข่งนางเอก การแต่งงานครั้งนี้เขากลายเป็นสามีพ่อบ้านเต็มตัวส่วนภรรยาอย่างนางเอกต้องออกไปทำงานได้รับตำแหน่งเป็นประธานใหญ่บริษัท เรื่องกินเรื่องอยู่เป็นหน้าที่สามีโดยตรง ความอ่อนโยนใส่ใจของพระเอกทำให้นางเอกค่อยๆเริ่มหวั่นไหว ส่วนความจริงใจเชื่อใจของนางเอกทำให้พระเอกเริ่มลังเลค่อยๆตกหลุมรักเธอแต่ก็เพราะมีแผนการภารกิจลับๆทำให้เขาต้องคอยหนักใจ การแสดงของนักแสดง พระนางนักแสดงเพิ่งเคยเห็นเลยสำหรับคู่นี้อย่าง เฉินเซิ่งเฮิง พระเอกที่มารับบทเป็นเชฟหนุ่มหล่อแสนอ่อนโยนสามีสมบูรณ์แบบ ประกบคู่กับ เกาอวี้เฟย นางเอกสาวมารับบทเป็นประธานสาวผู้แข็งแกร่งเข้มแข็งจิตใจดี ทั้งสองแสดงบทบาทตัวละครเป็นตัวของตัวเองมากเล่นทำเอาคนดูฟินตามว่าพวกเขาปล่อยฉากหวานกัน ฉากและตอนที่ประทับใจ ชอบฉากที่นางเอกเผลอๆเห็นพ่อเลี้ยงมีชู้จึงรู้สึกเสียใจที่พ่อเลี้ยงไม่แคร์แม้กระทั่งแม่ของเธอที่ตายไปแล้ว มีรูปติดห้องนอนแต่ดันพาหญิงเข้าห้องแบบไม่เกร็งใจนางเลย ทำให้นางเสียใจและมานั่งดื่มแอลกอฮอล์จนเมาเมื่อพระเอกมาเห็นก็พากลับห้องแต่พอความเมาปลิ้นของเธอ ดันไปหยอกอ่อยพระเอกด้วยการจุ๊บแล้วจุ๊บอีกทำเอาพระเอกเกือบห้ามใจไม่อยู่ เป็นฉากที่ทั้งฟินทั้งฮาเลย ขอบคุณสำหรับการอ่านบทความนี้หากบทความนี้ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยขอบคุณค่ะ🙏 เขียนเมื่อ 26 มี.ค.25✍️ เครดิตภาพจาก weibo 我的主夫男友官微 ภาพปก/ภาพประกอบที่ 1, 2,3 ,4,5,6 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
iamnan23 • 28 มี.ค. 68
อ่าน
3 เหตุผลที่ต้องดู HOW TO TRAIN YOUR DRAGON 2
3 เหตุผลที่ต้องดู HOW TO TRAIN YOUR DRAGON 2เนื้อหาน่าที่ติดตามจากภาคแรกที่ตัวเอกได้รับการยอมรับจากทุกคนในหมู่บ้าน ได้หมู่บ้านที่เกลียดมังกรให้กลายเป็นคู่หูแสนรัก แต่ปมในหนังของตัวเอกยังไม่หมดไปแค่นั้นเพราะเขายังไม่มีความพร้อมที่ขึ้นมาเป็นผู้นำและอยากที่จะออกไปสำรวจโลกกว้างมากกว่านี้ แต่ยิ่งสำรวจยิ่งพบกับความลับที่ซ่อนเอาไว้ว่ามังกรอาจกลายเป็นผู้ถูกล่า และมีกลุ่มคนที่ค่อยช่วยเหลือมังกรเหมือนกัน และอาจเป็นคนที่พระเอกคิดถึงตามหามาตลอดความประทับใจของนักเขียน การพลิกเนื้อหาของหนังที่ทำให้เราไม่สามารถคาดเดาตอนจบของหนังแรกนี้ได้ ฉากที่เสียน้ำตาทำให้เศร้าไปกับมันบางครั้งความสูญเสียอาจจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ ที่นำไปสู่การกล้าตัดสินทำสิ่งยิ่งใหญ่ในชีวิตความทุ่มเทของหนังในภาค 2ทีมงานได้ออกเดินทางสำรวมให้มังกรมีความสมจริงที่สุด เพราะในหนังภาค 2 ถือเป็นการรวมตัวมังกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทั้ง 3 ภาค ในการสร้างมังกร ฉากที่ใช้ประกอบรวมถึงลักษณะการเคลื่อนไหวของมังกรแต่ละตัวที่มีความพิเศษตามและละสายพันธ์ุอีกด้วย รวมถึงฉากที่ต้องสร้างสรรค์กับบทตัวเอกให้ว่าเนื้อหาแบบไหนถึงจะโดนใจ สมเหตุสมผล มากที่สุดตัวละครขวัญใจ ประจำภาค 2ตัวละครแรกเราของนำเสนอ คุณชายนักรักที่ นกทุกสนามการแข่งขัน กับมังกรคู่ใจสน็อกเอาท์ จอร์เกนสัน (Snolout Jorgenson) พากย์เสียง โดย โจนาห์ ฮิคค์นิสัย/บุคลิก บึกบึน โง่เง่า และตัวเหม็น นี่แหละคือไวกิ้งที่สมบูรณ์แบบ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ ฮิคคัพ แม้ว่าตอนแรกจะไม่ชอบขี้หน้ากัน แต่ก็ยอมรับกันในที่สุด และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันความสามารถพิเศษ แข็งแรง สู้รบด้วยขวานและดาบเก่ง คารมจีบสาวเป็นเลิศรู้หรือไม่ ตอนแรกเคยถูกวางให้เป็นผู้หญิง, เขาเคยโดนฟ้าผ่ากลางหัวถึง 12 ครั้ง ไม่รู้รอดมาได้ยังไงฮุคแฟง (Hookfang)นิสัย/บุคลิก มังกรพันธุ์พญาเพลิงพิฆาต (Mornstrous Nightmare) ของสน็อกเอาท์ ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูแหลมคมและขึ้นชื่อเรื่องการพ่นไฟมาก ทําให้ไวกิ้งมองมันเป็นมังกรที่ อันตรายสูงและถ้าพบควรถูกฆ่าทันทีที่พบเห็นความสามารถพิเศษ เนื่องจากเป็นมังกรที่มีอารมณ์แปรปรวนง่าย เวลาโกรธมากจะมีเปลวไฟลุก ท่วมตัว ปลายปีกมีส่วนที่เป็นเหมือนตะขอเอาไว้ยึดเกาะปีนป่าย เป็นลักษณะเด่นของมังกร ในตระกูล Dragon class - Stoker ใจร้อนขี้โมโห บางตัวจุดไฟท่วมตัวเองได้ แต่ถ้าขาดไฟแสดง ว่ามันกําลังจะตาย ไวกิ๊ง ตัวกลมน่ารักรอบรู้เรื่องมังกร กับ มังกรคู่ใจฟิชเล็กส์ อินเกอร์แมน (Fishlegs Ingerman) พากย์เสียงโดย คริสโตเฟอร์ มินท์ซ-พลาสส์นิสัย/บุคลิก แม้ชื่อจะฟังดูตัวเล็ก แต่ฟิชเล็กส์กลับ เป็นคนตัวใหญ่อ้วนอุ้ยอ้าย อ่อนไหว นิสัยดี เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของ ฮิคคัพความสามารถพิเศษ มีความรู้เกี่ยวกับมังกรอย่างแน่นปึกเหมือนตํารามาเองมีทลัก(Meatlug)นิสัย/บุคลิก มังกรพันธุ์แหนมคึก Gronckie) คู่ใจของพิชเล็กส์ เป็นมังกรพันธุ์ที่มีเยอะและพบเห็นได้ทั่วไปรอบเกาะเบิร์ก มีร่างกายใหญ่แต่ปีกสั้นมาก ทําให้เวลาบินดูอุ้ยอ้าย ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงความสามารถพิเศษ ชอบกินหินเป็นอาหารและพ่นออกมาเป็นหินร้อนและลาวา ได้ แถมยังมีส่วนหางเป็นลูกตุ้มไว้ฟาดศัตรูด้วย ความพิเศษของมังกรพันธุ์นี้คือ Dragon class - Boulder อึดถึกติดดิน กินหินได้ ถึงปีกจะเล็กเมื่อเทียบกับขนาดตัว แต่ก็ สามารถบินได้เร็วไม่แพ้มังกรคลาสอื่นๆรู้หรือไม่ ในหนังสือนั้นเขาตัวเล็กกว่าฮิคคัพซะอีกเพื่อน 2 คนนี้มีความสำคัญกับตัวเอกอย่างมาก ที่ค่อยอยู่เคียงข้างไม่ทิ้งตัวเอกไปไหนทั้งที่ก็มีความกลัวอยู่ในจิตใจ แต่ก็พร้อมที่จะสู้ไปด้วยกับเพื่อน ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ตัวเอกกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงและยอมรับที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกครั้งขอบคุณรูปภาพจาก Dreamwork
Beam • 27 เม.ย. 63
อ่าน
รวมลิงค์ดูรายการ CHEF ON TRAIN ทุกตอน ทาง TrueID
CHEF ON TRAIN ย้อนหลังทาง TrueIDทุกตอนก่อนใครได้ที่นี่เลย กับผู้เข้าแข่งขัน 10 คน ที่ร่วมเปิดครัวบนเส้นทางรถไฟสายเหนือ ที่จะมาประชันฝีมือ และสร้างความฮือฮาในวงการอาหาร โดยการตัดสินของคณะกรรมการ นำทีมโดย "ป้าตือ สมบัษร ถิระสาโรช" พร้อมด้วย "เจนนิเฟอร์ คิ้ม" , "แต๋ง กฤษฏิ์กุล ชุมแก้ว", "เชฟกิ๊ก กมล ชอบดีงาม" และ "เชฟฟาง ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช" และยังมีพิธีกรคนสวยอย่าง "จอย รินลณี ศรีเพ็ญ" ติดตามชม รายการ "CHEF ON TRAIN" ทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.00 น. ดูฟรีที่ทรูไอดี (เริ่มตอนแรก วันที่ 3 พฤศจิกายน นี้) ตัวตึงทั้งนั้น! เปิดตัว 5 กรรมการ ที่ร่วมตัดสินในรายการ "CHEF ON TRAIN" ห้ามพลาด "CHEF ON TRAIN" กับภารกิจสุดท้าทาย พร้อมเมนูเด็ด เริ่ม 3 พ.ย.นี้ รวมลิงค์ดูย้อนหลังซีรีส์ CHEF ON TRAIN ทาง TrueID คลิก ดูย้อนหลัง CHEF ON TRAIN EP.1 คลิก ดูย้อนหลัง CHEF ON TRAIN EP.2 คลิก ดูย้อนหลัง CHEF ON TRAIN EP.3 คลิก ดูย้อนหลัง CHEF ON TRAIN EP.4 คลิก ดูย้อนหลัง CHEF ON TRAIN EP.5 คลิก ดูย้อนหลัง CHEF ON TRAIN EP.6 คลิก ดูย้อนหลัง CHEF ON TRAIN EP.7 คลิก ดูย้อนหลัง CHEF ON TRAIN EP.8 คลิก ดูย้อนหลัง CHEF ON TRAIN EP.9 คลิก ดูย้อนหลัง CHEF ON TRAIN EP 10 สมัครแพ็กเกจ TrueID+ ผ่านแอป TrueID หรือ กล่อง TrueID TV สมัครเลย https://ttid.co/D7LM/h28h8u08 อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : ตัวตึงทั้งนั้น! เปิดตัว 5 กรรมการ ที่ร่วมตัดสินในรายการ "CHEF ON TRAIN" ห้ามพลาด "CHEF ON TRAIN" กับภารกิจสุดท้าทาย พร้อมเมนูเด็ด เริ่ม 3 พ.ย.นี้
ข่าวบันเทิง • 5 ม.ค. 68
อ่าน
SATZONE ชวน Best Friends เกาะติด วง BOYFRIEND ในสกู๊ปพิเศษกับ 6 หนุ่ม เสาร์นี้ ทางช่อง 7 สี
ช่อง 7 สี จัดเต็มพิเศษเพื่อแฟน SATZONE โซนมันวันเสาร์ พา 6 หนุ่มหน้าใสจากแดนเกาหลี ทั้ง ดงฮยอน ฮยอนซอง จองมิน ยองมิน กวังมิน และ มินวู ในนามวง บอยเฟรนด์ BOYFRIEND มาให้พิธีกรสาว เบเบ้ ธันย์ชนก ฤทธินาคา ล้วงลึกความลับ เป็นกันเองอย่างใกล้ชิด พร้อมของรางวัลสุดพิเศษเพื่อแฟน SATZONE โซนมันวันเสาร์ และเหล่าสาวกเบสต์เฟรนด์ Best Friend อย่าพลาดติดตามกติกาการร่วมสนุกได้ในรายการ หลังบิ๊กซีนีม่า วันเสาร์ที่ 23 และ 30 สิงหาคมนี้ ทางช่อง 7 สี โดยทั้ง 6 หนุ่ม ถูกพิธีกรสาว เบเบ้ ธันย์ชนก ล้วงลึกให้เปิดใจแบบไม่เคยเปิดที่ไหนมาก่อนทั้งเรื่อง สาวในฝัน ความรัก และวีรกรรมสุดจี๊ด แถมลีลาและลูกเล่นการตอบคำถามของแต่ละคนทำเอา เบเบ้ พิธีกรที่นั่งซักถามเองก็แอบเขินไปหลายครั้ง พร้อมสอนการฝึกออกเสียงภาษาไทย สไตล์น่ารัก น่าหยิก พร้อมมีของขวัญชิ้นพิเศษมาฝาก ชนิดที่เหล่าสาวกในนามเบสต์เฟรนด์ ของวง บอยเฟรนด์BOYFRIEND และแฟนๆ รายการห้ามพลาดติดตามกติกาการร่วมสนุกชิงรางวัลพิเศษกันให้ดี ทางรายการ SATZONE โซนมันวันเสาร์ หลังบิ๊กซีนีม่า วันเสาร์ที่ 23 และเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2557 ทางช่อง 7 สี และช่อง 35 เพื่อติดตามชมในระบบ ช่อง 7 เอชดี ติดตามรายการ Satzone โซนมันส์วันเสาร์ ได้ทุกคืนวันเสาร์ หลังบิ๊กซีนีม่า ช่อง 7 สี สามารถติดตามข่าวสารของรายการได้ที่ทาง https://www.facebook.com/satzone และของช่อง 7 สี ได้ทาง www.ch7.com , https://www.facebook.com/BBTV.Ch7 และ Instagram : @bbtv_ch7 ชมทีวีออนไลน์ช่อง 7 แบบสดๆ ได้ที่นี่ ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง Facebook.com/TVSociety
ข่าวบันเทิง • 21 ส.ค. 57
อ่าน
SATZONE ชวน Best Friends เกาะติด วง BOYFRIEND ในสกู๊ปพิเศษกับ 6 หนุ่ม เสาร์นี้ ทางช่อง 7 สี
ช่อง 7 สี จัดเต็มพิเศษเพื่อแฟน SATZONE โซนมันวันเสาร์ พา 6 หนุ่มหน้าใสจากแดนเกาหลี ทั้ง ดงฮยอน ฮยอนซอง จองมิน ยองมิน กวังมิน และ มินวู ในนามวง บอยเฟรนด์ BOYFRIEND มาให้พิธีกรสาว เบเบ้ ธันย์ชนก ฤทธินาคา ล้วงลึกความลับ เป็นกันเองอย่างใกล้ชิด พร้อมของรางวัลสุดพิเศษเพื่อแฟน SATZONE โซนมันวันเสาร์ และเหล่าสาวกเบสต์เฟรนด์ Best Friend อย่าพลาดติดตามกติกาการร่วมสนุกได้ในรายการ หลังบิ๊กซีนีม่า วันเสาร์ที่ 23 และ 30 สิงหาคมนี้ ทางช่อง 7 สี โดยทั้ง 6 หนุ่ม ถูกพิธีกรสาว เบเบ้ ธันย์ชนก ล้วงลึกให้เปิดใจแบบไม่เคยเปิดที่ไหนมาก่อนทั้งเรื่อง สาวในฝัน ความรัก และวีรกรรมสุดจี๊ด แถมลีลาและลูกเล่นการตอบคำถามของแต่ละคนทำเอา เบเบ้ พิธีกรที่นั่งซักถามเองก็แอบเขินไปหลายครั้ง พร้อมสอนการฝึกออกเสียงภาษาไทย สไตล์น่ารัก น่าหยิก พร้อมมีของขวัญชิ้นพิเศษมาฝาก ชนิดที่เหล่าสาวกในนามเบสต์เฟรนด์ ของวง บอยเฟรนด์BOYFRIEND และแฟนๆ รายการห้ามพลาดติดตามกติกาการร่วมสนุกชิงรางวัลพิเศษกันให้ดี ทางรายการ SATZONE โซนมันวันเสาร์ หลังบิ๊กซีนีม่า วันเสาร์ที่ 23 และเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2557 ทางช่อง 7 สี และช่อง 35 เพื่อติดตามชมในระบบ ช่อง 7 เอชดี ติดตามรายการ Satzone โซนมันส์วันเสาร์ ได้ทุกคืนวันเสาร์ หลังบิ๊กซีนีม่า ช่อง 7 สี สามารถติดตามข่าวสารของรายการได้ที่ทาง https://www.facebook.com/satzone และของช่อง 7 สี ได้ทาง www.ch7.com , https://www.facebook.com/BBTV.Ch7 และ Instagram : @bbtv_ch7 ชมทีวีออนไลน์ช่อง 7 แบบสดๆ ได้ที่นี่ ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง Facebook.com/TVSociety
ข่าวบันเทิง • 21 ส.ค. 57
อ่าน
SATZONE ชวน Best Friends เกาะติด วง BOYFRIEND ในสกู๊ปพิเศษกับ 6 หนุ่ม เสาร์นี้ ทางช่อง 7 สี
ช่อง 7 สี จัดเต็มพิเศษเพื่อแฟน SATZONE โซนมันวันเสาร์ พา 6 หนุ่มหน้าใสจากแดนเกาหลี ทั้ง ดงฮยอน ฮยอนซอง จองมิน ยองมิน กวังมิน และ มินวู ในนามวง บอยเฟรนด์ BOYFRIEND มาให้พิธีกรสาว เบเบ้ ธันย์ชนก ฤทธินาคา ล้วงลึกความลับ เป็นกันเองอย่างใกล้ชิด พร้อมของรางวัลสุดพิเศษเพื่อแฟน SATZONE โซนมันวันเสาร์ และเหล่าสาวกเบสต์เฟรนด์ Best Friend อย่าพลาดติดตามกติกาการร่วมสนุกได้ในรายการ หลังบิ๊กซีนีม่า วันเสาร์ที่ 23 และ 30 สิงหาคมนี้ ทางช่อง 7 สี โดยทั้ง 6 หนุ่ม ถูกพิธีกรสาว เบเบ้ ธันย์ชนก ล้วงลึกให้เปิดใจแบบไม่เคยเปิดที่ไหนมาก่อนทั้งเรื่อง สาวในฝัน ความรัก และวีรกรรมสุดจี๊ด แถมลีลาและลูกเล่นการตอบคำถามของแต่ละคนทำเอา เบเบ้ พิธีกรที่นั่งซักถามเองก็แอบเขินไปหลายครั้ง พร้อมสอนการฝึกออกเสียงภาษาไทย สไตล์น่ารัก น่าหยิก พร้อมมีของขวัญชิ้นพิเศษมาฝาก ชนิดที่เหล่าสาวกในนามเบสต์เฟรนด์ ของวง บอยเฟรนด์BOYFRIEND และแฟนๆ รายการห้ามพลาดติดตามกติกาการร่วมสนุกชิงรางวัลพิเศษกันให้ดี ทางรายการ SATZONE โซนมันวันเสาร์ หลังบิ๊กซีนีม่า วันเสาร์ที่ 23 และเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2557 ทางช่อง 7 สี และช่อง 35 เพื่อติดตามชมในระบบ ช่อง 7 เอชดี ติดตามรายการ Satzone โซนมันส์วันเสาร์ ได้ทุกคืนวันเสาร์ หลังบิ๊กซีนีม่า ช่อง 7 สี สามารถติดตามข่าวสารของรายการได้ที่ทาง https://www.facebook.com/satzone และของช่อง 7 สี ได้ทาง www.ch7.com , https://www.facebook.com/BBTV.Ch7 และ Instagram : @bbtv_ch7 ชมทีวีออนไลน์ช่อง 7 แบบสดๆ ได้ที่นี่ ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง Facebook.com/TVSociety
ข่าวบันเทิง • 21 ส.ค. 57
อ่าน
How to Train Your Dragon (2025) กับเหตุผลดีๆที่คุณไม่ควรพลาด
How to Train Your Dragon (2025) ที่ TrueID กลับมาในรูปแบบไลฟ์แอ็กชัน คือการชุบชีวิตตำนานที่เคยตราตรึงใจผู้ชมทั่วโลกอีกครั้ง เรื่องราวยังคงติดตาม Hiccup เด็กหนุ่มไวกิ้งที่อ่อนแอและแตกต่างจากครอบครัว แต่กลับได้พบมิตรภาพอันยิ่งใหญ่กับ Toothless มังกรไนท์ฟิวรี่ผู้ลึกลับ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลายเป็นสะพานเชื่อมที่ทลายกำแพงความกลัวระหว่างมนุษย์กับมังกร และเปิดทางสู่การผจญภัยที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ ความกล้าหาญ และการเติบโตทางใจ ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเหตุผลดีๆที่หลายคนไม่ควรพลาดกับการกลับมาของหนังผจญแฟนตาซีเรื่องนี้กันครับ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! 1.การกลับมาของผู้กำกับต้นฉบับ Dean DeBlois เขาคือผู้ที่สร้างชื่อให้แฟรนไชส์นี้ตั้งแต่เวอร์ชันแอนิเมชัน และได้กลับมาทั้งเขียนบทกำกับ และอำนวยการสร้างอีกครั้ง ทำให้มั่นใจได้ว่าหนังฉบับคนแสดงนี้ยังคงซื่อสัตย์ต่อจิตวิญญาณดั้งเดิม ในขณะเดียวกันก็เติมเต็มมุมมองใหม่ๆที่เหมาะสมกับการเป็นรูปแบบไลฟ์แอ็กชัน ดูโตขึ้นแต่คงหัวใจของเรื่องเอาไว้ครบถ้วน ไม่ทำให้แฟนๆรุ่นเก่าผิดหวังอย่างแน่นอน 2.ความสมจริงและฉากอันยิ่งใหญ่ Universal ทุ่มทุนสร้างฉากหมู่บ้านไวกิ้งอย่างอลังการ ตั้งแต่บ้านไม้ กลิ่นอายตลาดปลา ไปจนถึงรายละเอียดเล็กน้อยที่ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนก้าวเข้าไปอยู่ในโลก Berk จริงๆ ไม่เพียงแค่ใช้ซีจี แต่ทีมงานยังคงลงแรงสร้างฉากที่ดูมีชีวิตชีวา ทำให้ภาพบนจอที่เราได้เห็นดูจับต้องได้มากกว่าเดิม 3.การกลับมาของ Gerard Butler และนักแสดงหน้าใหม่ Gerard Butler กลับมาสวมบท Stoick พ่อผู้แข็งแกร่งและดุดัน ในขณะที่ Mason Thames กับ Nico Parker นักแสดงรุ่นใหม่ที่มารับ Hiccup และ Astrid ช่วยเติมเต็มความสดใหม่ให้กับเรื่องราว การผสมผสานในครั้งนี้ทำให้เรื่องราวดูอบอุ่นเป็นอย่างมาก 4.ดนตรีจาก John Powell หนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้แฟรนไชส์นี้ถูกจดจำอีกอย่างก็คือดนตรีประกอบ และครั้งนี้ John Powell คอมโพสเซอร์คนเดิมได้กลับมาอีกครั้ง เสียงดนตรีที่ไพเราะและทรงพลังยังคงพาเราคนดูทะยานไปกับการผจญภัยของตัวละคร พร้อมสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำ 5.เคารพต้นฉบับแต่เล่าใหม่ให้เข้าถึงง่าย แม้จะดัดแปลงมาจากแอนิเมชันในปี 2010 แต่หนังไม่ได้เป็นเพียงการทำซ้ำ แต่มีการตีความใหม่ในหลายอย่างเพื่อให้เข้าถึงคนดูยุคปัจจุบันมากขึ้น ทั้งโทนเรื่องที่เข้มข้น การนำเสนอที่เน้นอารมณ์ จึงเป็นทั้งของขวัญให้กับแฟนๆก่อนหน้า และเป็นประตูต้อนรับผู้ชมยุคใหม่ได้อย่างดี 6.พลังของมิตรภาพและการเติบโต แก่นแท้ของเรื่องยังคงอยู่ที่การค้นพบมิตรภาพในสิ่งที่เราเคยกลัว และการเติบโตของ Hiccup ที่เรียนรู้จะกล้าหาญในแบบของตนเอง นี่คือประเด็นที่เหนือกาลเวลา และเป็นสาเหตุที่ทำให้ How to Train Your Dragon ยังคงมีพลังและความหมายกับผู้ชมทุกยุค สรุปแล้ว How to Train Your Dragon (2025) จึงเป็นการกลับมาของหนังผจญภัยแฟนตาซีดีๆ ที่ผู้ชมสามารถเข้าถึงได้ง่าย ดูได้กันทั้งครอบครัว มาพร้อมความอลังการ และการตีความในรูปแบบใหม่ จากฝีมือของผู้กำกับคนเดิม ไม่ควรพลาดกันครับ รับชม อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร How to Train Your Dragon 2025 บน TrueID คลิกเลย! เครดิต ภาพปก / ภาพ1 / ภาพ2 / ภาพ3 / ภาพ4 / ภาพ5 / ภาพ6 / ภาพ7 จาก httydragon จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
9inelist • 7 ก.ย. 68
อ่าน
▶️คลิป : How I Screen My Custom T-shirt at home (Iron-On Transfer): สกรีนเสื้อเองแบบง่ายๆ ที่บ้านด้วยเตารีด
อยากได้เสื้อที่สวยๆ ลายที่ตัวเองชอบ ก็ไม่จำเป็นต้องไปจ้างร้านแล้วนะคะ เพราะวันนี้เพื่อนๆ จะสกรีนเสื้อเองได้ง่ายๆ ที่บ้านเลย (Screen T-shirt) โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรพิเศษมากมายเพียงแค่เตารีด (Iron) และกระดาษ Transfer (Transfer Paper) เท่านั้น แถมราคาไม่แพงด้วย ยังไงก็ลองเอาไปทำตามกันดูได้นะคะ⭐ อุปกรณ์ ⭐1. เสื้อ (ควรใช้ผ้า Cotton 100%)2. กรรไกร3. เตารีด4. กระดาษ Transfer (พิมพ์ผ่านเครื่องพิมพ์ Inkjet)☁️ สำหรับผ้าทุกสี ☁️☁️ วิธีทำ ☁️1. กระดาษ Transfer ที่เราจะใช้จะเป็นสำหรับผ้าทุกสี ซึ่งกระดาษชนิดนี้จะมีกระดาษรองรีดมาให้ด้วยนะ2. เตรียมภาพจากโปรแกรมที่เราถนัดได้เลยซึ่งครั้งนี้เราจะใช้ Power Point และเลือกปรับขนาดให้เป็นขนาด A43. พิมพ์ภาพออกมาจากนั้นตัดออกมาตามขอบของรูปได้เลย4. จากนั้นมาเตรียมเสื้อของเราซึ่งควรเป็นผ้า Cotton 100% เพื่อให้ติดคงทน5. นำรูปที่พิมพ์ออกมาแล้วมาลอกกระดาษด้านหลังออก จากนั้นนำมาวางบนเสื้อในตำแหน่งที่ต้องการ6. นำกระดาษรองรีดมาวางทับบนผ้า7. ใช้เตารีดที่ปรับอุณหภูมิสำหรับผ้า Cotton และถ้าเป็นเตารีดไอน้ำ อย่าลืมปิดโหมดไอน้ำด้วยนะ จากนั้นนำมารีดให้ทั่วรูปภาพ8. สังเกตว่าเมื่อรีดจนภาพติดลงบนผ้าหมดแล้วให้นำกระดาษรองรีดออก แค่นี้เราก็สกรีนเสื้อโดยใช้กระดาษ Transfer สำหรับผ้าทุกสีเสร็จแล้ว☁️ สำหรับผ้าสีอ่อน ☁️☁️ วิธีทำ ☁️1. กระดาษ Transfer ที่เราจะใช้จะเป็นสำหรับผ้าสีอ่อน2. เตรียมภาพจากโปรแกรมที่เราถนัดได้เลยซึ่งครั้งนี้เราจะใช้ Power Point และเลือกปรับขนาดให้เป็นขนาด A4 แบบแนวนอน3. แต่จุดสำคัญสำหรับการใช้กระดาษ Transfer สำหรับผ้าสีอ่อนนั้นคือ เราจะอย่ากลับรูป (Flip) ในโปรแกรมก่อนด้วยนะเพราะตอนเราสกรีนเราจะพลิกลายรูปเข้าหาเสื้อทำให้ถ้าเราไม่กลับรูปตอนสกรีนออกมาภาพที่เราอยากได้จะกลับด้านกัน4. พิมพ์ภาพออกมาและตัดตามขอบรูปภาพที่เราต้องการออกมาได้เลย5. จากนั้นมาเตรียมเสื้อของเราซึ่งควรเป็นผ้า Cotton 100% เพื่อให้ติดคงทน6. นำภาพไปวางในตำแหน่งเสื้อที่ต้องการแต่พลิกรูปลงไปบนตัวผ้า จากนั้นนำเตารีดมารีดได้เลย อย่าลืมปรับอุณหภูมิสำหรับผ้า Cotton และถ้าเป็นเตารีดไอน้ำ ก็อย่าลืมปิดโหมดไอน้ำด้วยนะ7. เมื่อรีดจนภาพได้ติดกับผ้าสนิทแล้ว ทิ้งให้กระดาษเย็นสักพักจากนนั้นลอกกระดาษด้านนอกออกมาได้เลย แค่นี้เราก็สกรีนเสื้อโดยใช้กระดาษ Transfer สำหรับผ้าสีอ่อนเสร็จแล้วและหากมีข้อสงสัยหรืออยากให้บีแชร์อะไรเพิ่มเติมก็ Comment มาคุยกันได้เลยนะคะ 🥰และอย่าลืมติดตามบีทางช่องทางอื่นๆ ด้วยนะคะ💖 Let's be friends 💖☁ TrueID In-Trend☁ Youtube☁ Facebook☁ Instagram☁ Tiktok☁ Twitter☁ Pinterest☁ LINE Official Account☁ Blockdit☁ Pantip☁ Dek-D☁ Websiteเครดิตภาพประกอบทั้งหมด / วีดีโอคลิป : ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Beeinspired • 15 ก.ย. 64
อ่าน
รีวิว อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร How to Train Your Dragon 2025
ใครเป็นสาวกมังกรหรือแฟนคลับเจ้ามังกรทูธเลส หรือเขี้ยวกุด ไม่ควรพลาด How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร ฉบับไลฟ์แอคชัน (2025) ที่บอกเลยว่ากระแสดีตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงฯ เลย และหลายเสียงก็รีวิวไปในทิศทางเดียวกันว่าเจ้าเขี้ยวกุดในเวอร์ชั่นไลฟ์แอคชันน่ารักไม่แพ้แอนิเมชั่นด้วย ซึ่งในบทความนี้เราก็จะขอมารีวิวอภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร ฉบับไลฟ์แอคชัน รวมถึงความน่ารักของเจ้าเขี้ยวกุดในเรื่อง ว่าจะแตกต่างจากแอนิเมชั่นอย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว มาอ่านกันเลย! อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร 3 How to Train Your Dragon: The Hidden World (2019) รับชมที่ TrueID รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! รีวิวหลังดู ความแตกต่างของ How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร ในส่วนของพาร์ทเนื้อเรื่องเป็นสิ่งที่หลายคนพูดถึงเยอะเพราะเนื้อเรื่องเวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่นแทบจะไม่แตกต่างจากแอนิเมชั่นเลย ทั้งการเดินเรื่องเปิดตัว ฮิคคัพ เด็กหนุ่มสายเลือดไวกิ้งที่ต้องทำหน้าที่ในการล่ามังกร แต่เพราะความไม่กล้ารวมถึงความคิดที่แตกต่างจากคนอื่น ทำให้เขากลายเป็นไวกิ้งคนแรกที่ไม่ทำร้ายมังกร และยังได้ขี่มังกรสายพันธุ์ในตำนานเป็นคนแรกอีกด้วย ต่อมาที่ต้องพูดถึงคือ เจ้ามังกรเขี้ยวกุด มังกรไนท์ฟิวรีหรือมังกรสายพันธุ์เพลิงนิลในตำนานที่ถูกกล่าวขานว่าหายาก เฉลียวฉลาด และยังไม่มีไวกิ้งคนไหนที่สามารถล้มมังกรตัวนี้ได้ ซึ่งใครที่เป็นแฟนคลับแอนิเมชั่นเรื่องนี้น่าจะมีภาพจำเจ้ามังกรรูปร่างปราดเปรียวสีดำ ดวงตาฉลาดเฉลียว และแน่นอนว่าในเวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่นก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะแทบจะถอดแบบมาจากแอนิเมชั่นเลย แต่ที่ส่วนตัวชอบมากที่สุดคือแววตาของเจ้าเขี้ยวกุดเวอร์ชั่นนี้ที่เราสัมผัสได้ถึงการส่งอารมณ์ต่างๆ ให้ฮิคคัพ และความน่ารักที่ถ่ายทอดออกมา จนเราเกือบลืมไปเลยว่า เขี้ยวกุด เป็นมังกรเพลิงนิลในตำนาน สำหรับความประทับใจ How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร ฉบับไลฟ์แอคชั่น ถ้าใครไม่เคยดูแอนิเมชั่นเรื่องนี้มาก่อน ส่วนตัวคิดว่าน่าจะประทับใจในความน่ารักของมังกรเขี้ยวกุดและพัฒนาการทั้งทางด้านอารมณ์ การเติบโตของตัวละครหลักอย่างฮิคคัพจากเด็กห่วยหลังห้องสู่ตัวท็อปที่ใครๆ ก็จับตามอง แต่ถ้าใครที่เคยดูเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นอาจจะไม่ค่อยรู้สึกถึงความแตกต่างของด้านเนื้อเรื่อง แต่ส่วนตัวก็อยากเชียร์ให้มาดูเวอร์ชั่นนี้ เพราะจะได้เห็นความน่ารักของแต่ละตัวละครมากขึ้นรวมถึงบทสนทนาที่เพิ่มขึ้นมาบางส่วนซึ่งทำให้เราเห็นถึงความเมคเซ้นส์ของเหตุการณ์ในการเล่าเรื่องมากขึ้น นอกจากนี้ ส่วนตัวได้ดู How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร เวอร์ชั่นพากย์ไทย รู้สึกประทับใจในเสียงพากย์ของ ภูวินทร์ และสยาโม รวมถึงนักพากย์คนอื่นๆ มาก บอกเลยว่าใครที่เคยตั้งข้อสงสัยว่าพากย์ไทยจะดีไหม อยากชวนให้มาดูเพราะเสียงพากย์ไทยดี มีหยอดมุกให้เราได้ขำเรื่อยๆ จ้า ตัวอย่างหนัง How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร https://youtu.be/TcNHdnRfM8s?si=iCZRdUhQKlCunje2 ขอบคุณภาพและวิดีโอประกอบบทความ ดังนี้ Youtube Major Group : ตัวอย่างหนัง How to Train Your Dragon อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร Facebook DreamWorks Animation : ภาพหน้าปก 1 - 2 / 1 / 2 / 3 / 4 ติดตามอ่านข่าวสารที่น่าสนใจ รีวิวซีรีส์ ละคร หนัง เรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ เล่าจากลัง จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
เล่าจากลัง • 18 มิ.ย. 68
อ่าน
รีวิว ตกหลุมรักพ่อบ้านกำมะลอ My Boyfriend 2025 ซีรีส์แนวโรแมนติก ดราม่า โดยเฉินเซิ่งเฮิงxเกาอวี้เฟย
ตกหลุมรักพ่อบ้านกำมะลอ My Boyfriend 2025 สวัสดีค่ะวันนี้ดิฉันอยากจะมาป้ายยาซีรีส์ใหม่เรื่อง "ตกหลุมรักพ่อบ้านกำมะลอ My Boyfriend 2025 " ซีรีส์แนวโรแมนติก ดราม่า ได้นักแสดงนำหน้าใหม่อย่างหนุ่มสุดหล่อเฉินเซิ่งเฮิง มาประกบคู่กับสาวสวยเกาอวี้เฟย บอกเลยว่าเนื้อเรื่องสนุก และน่าดู แถมเคมีพระ-นางยังดีเกินคาด มีจำนวน 24 ตอนจบ ถือเป็นซีรีส์สนุกน่าดูอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ มาค่ะมาดูกันว่าซีรีส์จะสนุกขนาดไหน รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! https://youtu.be/rLozWXXzjjY?si=lB-2RyHEWpMAVP7b 《我的主夫男友》開播│完美精英男主動入贅~富家千金明知是陷阱卻飛蛾撲火 เรื่องย่อ ตกหลุมรักพ่อบ้านกำมะลอ My Boyfriend 2025 ในเรื่องเล่าถึง อี้หนิง นางเอกทายาทอี้หยวนกรุ๊ป เพราะปู่ล้มป่วย พวกบรรดาลุงๆและพ่อเลี้ยงของเธอจึงคิดอุ๊บสมบัติ แต่เธอไม่ยินยอม และสิ่งเดียวที่จะทำให้เธอสามารถสืบทอดอี้หยวนกรุ๊ปได้อย่างชอบธรรมคือเธอต้องหาสามีมาแต่งงานด้วย เธอลันวาจาไว้ว่าจะแต่งงานภายในอาทิตย์หน้าจึงพยายามมองหาว่าที่สามีในอนาคตที่เพียบพร้อม และการคัดเลือกของเธอก็ทำให้เธอได้เจอกับ เสิ่นเชียนเจ๋อ พระเอก เขาเป็นเจ้าของร้านอาหารที่หล่อและคุณสมบัติตรงตามที่เธอต้องการ เธอเลือกเขามาเป็นสามีทั้งคู่แต่งงานกันทั้งที่ความจริงพระเอกมีความลับบางอย่างที่ปิดบังเอาไว้ เขามีเป้าหมายในการเข้าหาเธอ บทสรุปของเรื่องราวจะเป็นเช่นไร ต้องไปติดตามกันต่อในซีรีส์ค่ะ รีวิว ตกหลุมรักพ่อบ้านกำมะลอ My Boyfriend 2025 เนื้อเรื่อง อันดับแรกเรามาดูในส่วนของเนื้อเรื่องหลังดูไปเพียงไม่กี่ตอนดิฉันรู้สึกว่าเนื้อเรื่องสนุก และน่าดูเลยค่ะ พล็อตเรื่องก็ยังถือว่าไม่แปลกใหม่สำหรับซีรีส์แนวนี้ แกนหลักของเรื่องเน้นที่การแย่งชิงมรดก ความรักของพระ-นาง และการแก้แค้น โดยรวมถือว่าวางปมของเรื่อง และผูกโยงเรื่องได้น่าติดตามเลยค่ะ เนื้อเรื่องเล่าผ่านตัวละครนางเอก เธอเป็นหญิงเก่งทายาทอี้หยวนกรุ๊ป เพราะปู่ล้มป่วย เธอต้องรีบหาสามีมาแต่งงานด้วยเพื่อจะได้เป็นผู้สืบทอดบริษัทต่อ เธอเลือกพระเอกเป็นสามี ทั้งคู่แต่งงานกัน แต่ก่อนหน้านั้นพ่อเลี้ยงของเธอพยายามดึงพระเอกให้มาเป็นพวกเดียวกัน แต่เขาไม่ตกลง พระเอกมีความลับและตัวตนลึกลับซ้อนอยู่ เขามีเป้าหมายในการเข้าหาตัวนางเอก แต่กว่าจะรู้ตัว ด้วยความใกล้ชิด เขาตกหลุมรักเธอ และเธอก็เริ่มชอบเขามากขึ้นทุกวัน เนื้อเรื่องกำลังสนุกเลยค่ะ ต้องไปติดตามกันต่อว่าเรื่องราวความรักของพวกเขาจะลงเอยเช่นไร โดยส่วนตัวดิฉันชอบเนื้อเรื่องตรงส่วนที่วางปมได้ดี ดำเนินเรื่องเร็ว แม้จะจำเจไปบ้าง แต่ก็ยังถือว่าโอเคครบรสค่ะ นักแสดง เฉินเซิ่งเฮิง รับบท เสิ่นเชียนเจ๋อ เกาอวี้เฟย รับบท อี้หนิง นักแสดง ต่อมาในส่วนของนักแสดงได้นักแสดงนำหน้าใหม่อย่างหนุ่มหล่อเฉินเซิ่งเฮิง และสาวสวยน่ารักเกาอวี้เฟย มารับบทพระ-นาง นอกจากนี้ยังได้นักแสดงสมทบมากมายมาร่วมทัพนักแสดง ทำให้ซีรีส์น่าติดตามมากยิ่งขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งคู่ที่เคมีของพวกเขาทั้งสองลงตัวเลยค่ะ แสดงได้น่ารัก และน่าเอ็นดูมาก ส่วนตัวดิฉันชอบคาแรกเตอร์ของพระเอกค่ะ ดูสุภาพ หล่อ อบอุ่น แต่มีความเจ้าเลห์และแผนการซ้อนอยู่ เป็นหนุ่มอีกคนที่ใครหลายคนอยากได้มาเป็นสามีอย่างแน่นอนค่ะ ฉาก เสื้อผ้า คอสตูม อันดับที่สามเรามาดูในส่วนฉาก เสื้อผ้า คอสตูม ถือทีมงานลงรายละเอียดและนำเสนอได้เหมาะกับบทและคาแรกเตอร์ของตัวละครเลยค่ะ ชุดสวย ดูสมวัย และเข้ากันกับตัวนักแสดง ในเรื่องสวนใหญ่เป็นชุดวัยทำงาน และชุดประจำวัน แม้จะมีชุดซ้ำไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ดูขัดตา ในส่วนโลเคชั่นต่างๆก็เลือกออกมาได้เข้ากันดีกับฉากการแสดงในแต่ละฉาก ส่วนการถ่ายทำภาพมุมกล้องสวยและโอเคเลยค่ะ ส่วนตัวดิฉันชอบฉากตอนเปิดพระ-นางค่ะ ทุกองค์ประกอบดูสมจริงและภาพสวยมากค่ะ เพลงประกอบ อันดับสุดท้ายมาดูในส่วนของเพลงประกอบกันค่ะ แต่ละเพลงส่วนใหญ่มีความหมายดีทั้งเพลงเปิดและเพลงปิดเข้ากันกับเนื้อเรื่อง ส่วนตัวดิฉันชอบเพลงเปิดของเรื่องค่ะ ฟังเเล้วยิ่งทำให้อินและฟินกับการดูซีรีส์ยิ่งขึ้นค่ะ แถมเสียงร้องยังเพราะอีกด้วยค่ะ ฉากที่ชอบ: ชอบฉากที่พระ-นางอยู่ด้วยกันในช่วงแรกๆที่ต้องใช้ชีวิตเป้นคู่รักกัน หลังแต่งานบอกเลยว่าแซบนัวร์ ละมุนและหวานมากค่ะ เป็น Kiss scene+Bed scene ที่ร้อนแรงมากค่ะ จบไปแล้วนะคะสำหรับการรีวิว ตกหลุมรักพ่อบ้านกำมะลอ My Boyfriend 2025 ซีรีส์แนวโรแมนติก ดราม่า โดยเฉินเซิ่งเฮิงxเกาอวี้เฟย หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ณ ที่นี่ด้วยค่ะ หวังว่าทุกท่านจะไปสนุกกับการรับชมซีรีส์กันนะคะ รับรองจะสนุก ลุ้นระทึกใจ และซาบซึ้งใจกับความรักของพวกเขา อย่าลืมไปรับชมกันนะค่ะรับรองจะไม่ผิดหวัง ขอบคุณค่ะ ตกหลุมรักพ่อบ้านกำมะลอ My Boyfriend 2025 เครดิตภาพและวิดิโอ Weibo:我的主夫男友官微:หน้าปก ตัดต่อโดยผู้แต่ง Krambo Youtube :Marc TV :รูปที่ 1 Weibo:我的主夫男友官微:รูปที่ 2/5-6 Weibo:陈圣亨_:รูปที่ 3 Weibo:高煜霏:รูปที่ 4 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Krambo • 25 มี.ค. 68
อ่าน
รีวิวหนังสือ “How I love my mother” หนังสือที่มีเหตุผลมากพอที่จะเป็นความสุขของกันและกัน
เราได้อ่านหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกเมื่อปี 25529 แล้ว แต่ไม่ได้มีโอกาสมารีวิวหนังสือเล่มนี้ซักที เพราะนึกไม่ออกมาเราจะรีวิวหนังสือเล่มนี้ที่ไหนดี เลยต้องขอขอบคุณทาง True ID ที่ให้โอกาสเราได้รีวิวหนังสือที่ดีทำให้เข้าใจคำว่า รัก ได้ดีที่สุดเล่มหนึ่ง เครดิตภาพ กุลธิดา แสงงาม ผู้เขียนเราจำไม่ได้ถึงเหตุผลที่ซื้อหนังสือเล่มนี้ เพราะช่วงนั้นเราอ่านหนังสือเยอะมาก ๆ และติดตามมาหลายสำนักพิมพ์ จนไปเห็นหนังสือเล่มนี้คลอดออกมา ประกอบกับเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว ความสัมพันธ์แม่ลูก และไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก เลยซื้อมาอ่าน ซึ่งปรากฏว่า หนังสือมันดีกว่าที่เราคิดไว้เป็น 1,000 เท่า เครดิตภาพ กุลธิดา แสงงาม ผู้เขียนHow I love my mother เป็นเรื่องจริงของพาย ภาริอร วัชรศิริ ที่มาเขียนบอกเล่าถึงประสบการณ์ในการดูแลแม่ที่เป็นทั้งเพื่อน แม่ พ่อ ในเวลาเดียวกัน (แม่คุณพายเป็นซิงเกิ้ลมัมคะ) ที่มีอาการเป็นอัมพฤกษ์จากเส้นเลือดในสมองแตกตั้งแต่เธออายุเพียงแค่ 16 ปี ทำให้แม่ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เรื่องราวจึงเริ่มจากตรงนั้น เครดิตภาพ กุลธิดา แสงงาม ผู้เขียน หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนไดอารี่ให้เราได้เข้าไปอยู่ร่วมในบทสนทนาระหว่างแม่และพาย อย่างอบอุ่น การมองโลกในแง่ดีของพายและอารมณ์ขันของแม่ ทำให้เราหลงรักหนังสือเล่มนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น การเล่าเรื่องจากมีการสลับบรรยายสถานการณ์ตรงหน้าให้เราเห็นภาพ และมีการเล่าถึงอดีตก่อนที่แม่จะป่วย และมีทั้งบทสนทนาระหว่างแม่กับพายในชีวิตประจำวันด้วย เราจึงได้เห็นความน่ารักความผูกพันระหว่างคน 2 คนนี้ได้เป็นอย่างดี เครดิตภาพ กุลธิดา แสงงาม ผู้เขียนหลาย ๆ ตอนในหนังสือเล่มนี้ ระหว่างที่อ่าน มันทำให้เราได้ย้อนกลับมาทบทวนตัวเองและความสัมพันธ์กับแม่เหมือนกันนะ ทุกสิ่งที่แม่ทำให้กับเรา มันช่าง งดงาม ยิ่งใหญ่ และเต็มไปด้วยความเสียสละ จึงไม่แปลกใจเลยที่ตั้งแต่ต้นจนจบของหนังสือเล่มนี้ เราทั้งร้องไห้ หัวเราะ และเข้าใจอารมณ์ของพายที่มีต่อแม่ และความรักของแม่ที่มีต่อพาย ในการต้องดูแลพายเพียงคนเดียวมาตลอด 16 ปี หากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยโทรศัพท์หาแม่ที่บ้าน หรือเทศกาลก็ไม่ค่อยได้มีเวลากลับบ้านไปหาแม่ เวลาจะไปเที่ยวหรือใช้ชีวิตด้วยกันก็น้อย....บางทีคุณอาจจะต้องหาหนังสือเล่มนี้มาอ่าน เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราจะโชคดีเหมือนพายไหม ที่มีโอกาสได้ดูแลแม่ยาวนานถึง 11 ปีปล. ตอนนี้คุณแม่น้องพายเสียแล้วนะคะ เมื่อปี 2018 หนังสือเล่มนี้เป็นความทรงจำดี ๆ ระหว่างแม่กับพายคะ
ข้างหลังภาพ • 15 ม.ค. 63
อ่าน
LINE ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ "My Card"รวมบัตรสมาชิกดัง
LINE ตอกย้ำแนวคิด Life On LINE เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ My Card (มาย การ์ด) ครั้งแรกที่รวบรวมบัตรสมาชิกแบรนด์โปรดไว้ที่เดียว ถือเป็น Digital Loyalty Platform เต็มรูปแบบที่ผสานทุกไลฟ์สไตล์ความคุ้มค่าได้อย่างไร้รอยต่อบนอีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่งของ LINE ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 45 ล้านราย เพียงเข้าผ่านแท็บ Wallet และเลือก My Card ทั้งนี้ LINE ได้ร่วมมือกับสตาร์บัคส์ ร้านกาแฟสุดโปรดของคนไทย ชูขึ้นเป็นพันธมิตรรายแรก และเปิดตัวด้วย LINE Starbucks Card ที่มาในลาย Brown และ Sally เป็นคอลเล็กชั่นพิเศษ สามารถใช้ชำระเงินที่ร้านสตาร์บัคส์ได้ง่ายๆ แค่สแกน นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถเติมเงินเข้าบัตรได้อย่างสะดวกด้วยกระเป๋าเงิน E-Wallet หรือบัตรเครดิต บัตรเดบิตผ่าน Rabbit LINE Pay พร้อมยังเช็กสถานะสมาชิกและสะสมดาว Starbucks Rewards ได้ทันที พิเศษสุด เมื่อเปิดบัตร LINE Starbucks Card เป็นครั้งแรก รับคูปองส่วนลดทันที 20% สำหรับซื้อเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ขนาด 12 ออนซ์ขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 (จำกัดสิทธิ 200,000 สิทธิ) นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่เติมเงินเข้า LINE Starbucks Card ขั้นต่ำ 200 บาทขึ้นไปต่อ 1 รายการ ผ่าน Rabbit LINE Pay รับคูปองส่วนลดเพิ่มมูลค่า 50 บาท สำหรับการเติมเงินในครั้งถัดไป ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 (จำกัดสิทธิ 100,000 สิทธิ) ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท LINE ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ไลน์เป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยใช้งานมากที่สุด ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 45 ล้าน ภายใต้วิสัยทัศน์ ?Life On LINE? เรามุ่งเน้นที่จะเชื่อมต่อโลกมาอยู่ในมือของทุกคนด้วยแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีที่เรามี ตลอดจนบริการที่หลากหลาย ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของคนไทย ล่าสุด เราได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด My Card ฟีเจอร์บัตรสมาชิก Digital Loyalty Platform เต็มรูปแบบ ซึ่งออกแบบมาเพื่อรวบรวมบัตรสมาชิกที่ได้รับความนิยมของคนไทยมาไว้บนแอพพ์ LINE สามารถผสานไลฟ์สไตล์ความคุ้มค่าในชีวิตประจำวันได้อย่างไร้รอยต่อ โดยไม่ต้องเข้าออกแอพพลิเคชั่นอื่นหรือพกพาบัตรให้ยุ่งยาก เราจึงได้ร่วมกับพันธมิตรผู้ให้บริการบัตรสมาชิกชั้นนำ เพื่อทำให้ฟีเจอร์ My Card นั้นสามารถอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลของผู้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ล่าสุดฟีเจอร์ My Card จึงนำร่องด้วยการให้บริการบัตรสมาชิกสำหรับแบรนด์ดังระดับโลกอย่างสตาร์บัคส์ โดย LINE Starbucks Card เป็นบัตรสมาชิกดิจิทัลที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง LINE และสตาร์บัคส์ สามารถใช้ชำระเงินที่ร้านสตาร์บัคส์พร้อมสะสมดาวกับทุกๆ การใช้จ่าย และเติมเงินสะดวกด้วยกระเป๋าเงิน E-Wallet หรือบัตรเครดิต บัตรเดบิต ผ่าน Rabbit LINE Pay ทั้งนี้ LINE และสตาร์บัคส์ได้ร่วมเป็นพันธมิตรในการให้บริการฟีเจอร์เดียวกันนี้มาก่อนในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความนิยมมากและมีผู้ลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 1 ล้านคน ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน ซึ่งสำหรับประเทศไทยได้เริ่มเปิดบริการบัตรสมาชิก LINE Starbucks Card ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคมเป็นต้นไป สำหรับการใช้งานฟีเจอร์ My Card นั้นง่ายดาย เพียงเปิดแอพพ์ LINE เลือกแท็บ Wallet เข้าฟีเจอร์ My Card จากนั้นผู้ใช้ก็สามารถเลือกเปิดบัตรสมาชิกที่ต้องการใช้งาน
มติชน • 5 มี.ค. 63
ดูเพิ่มเติม